……….รปภ.หนุ่มใหญ่ ส่งไลน์บอกพี่ร่วมงานว่า “พี่ต๋อง!มาหาผมจิ่ม” เวลา 22.22 น. เจ้าของไลน์ไม่ได้อ่าน เพราะนอนหลับ ตื่นมาตอนเช้าเห็นไลน์ มาเปลี่ยนเวร พบเป็นศพนอนข้างเก้าอี้ ข้างรั้ว สนงสาธารณสุข จ.แพร่
……….เมื่อเวลา 07.40 น. ร.ต.อ.ศรีไพร สัจจะนรพันธ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองแพร่ ทำหน้าที่พนักงานสอบสวนเวร ได้รับแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ใน สนง.สาธารณสุข จ.แพร่ ให้ตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งจึงประสาน อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยแพร่ และแพทย์เวร รพ.แพร่ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง พร้อมด้วย นายเด่น ปัญญานันท์ เภสัชกรเชี่ยวชาญ (ด้านเภสัชสาธารณสุข) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ ทันที
……….พบว่าข้างที่จอดรถ สนง. พบร่าง นายเอกชัย อะมอ อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 21 ม.6 บ้านต้าผาลาย ต.เวียงต้า อ.ลอง จ.แพร่ นอนเสียชีวิตในสภาพนอนหงาย มือเกร็ง สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีกรมท่า สวมรองเท้าผ้าใบ นอนอยู่ข้างเก้าอี้พับ พบบุหรี่ 1 มวน ตกอยู่ใกล้ๆร่างผู้ตาย ตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แพทย์เวรตรวจสอบเบื้องต้น ก่อนจะให้นำร่างไปชันสูตรโดยละเอียดที่ รพ.แพร่ ต่อไป
……….จากการสอบถาม นายชาญยุทธ์ สุวรรณหงส์ อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 420 ม.12 บ้านหนุน ต.บ้านหนุน อ.สอง จ.แพร่ เพื่อนร่วมงานทราบว่า เมื่อคืน เวลา 22.22 น. ผู้ตาย ได้ส่งข้อความมาหาตนทางไลน์ ข้อความว่า “พี่ต๋อง!มาหาผมจิ่ม” แต่ตนเองนอนหลับไปแล้งจึงไม่ได้อ่านข้อความ กระทั่งตื่นมาตอนเช้าเพื่อจะมาเปลี่ยนเวร ได้อ่านข้อความในไลน์ พบว่าผู้ตายส่งมา ตนเองจึงรีบเดินทางออกมาทำงาน
……….เมื่อมาถึงพบว่า ประตูสำนักงานปิดอยู่ ไฟที่ป้อมยามและภายใน สนง.ยังเปิดทิ้งไว้ ซึ่งแปลกมาก เพราะตามปกติเวลานี้ประตูจะเปิด และไฟที่ต่างๆ จะปิดแล้ว ตนจึงได้ รีบงัดประตู สนง.เปิดออก จากนั้นจึงไปดูในตู้ยาม ไม่พบ นายเอกชัยฯ เมื่อหันกลับมาดูฝั่งที่จอดรถ ก็พบร่าง นายเอกชัยฯ นอนเสียชีวิต ดังกล่าว จึงได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดังกล่าว
……….สำหรับนายเอกชัยฯ ตอนมาทำงานช่วงเย็นเมื่อวาน บ่นกับตนเองว่า เจ็บหน้าอก ตนเองก็บอกว่า ให้เพลาๆบ้างเรื่องเหล้า เรื่องบุหรี่ และเช่นเดียวกัน หากเมื่อคืน นายเอกชัยฯ โทรมาหาตน แทนที่จะส่งไลน์มาบอก ตนคงจะออกมาหาแล้ว เพราะรู้อยู่แล้วว่า นายเอกชัยฯ บ่นเจ็บหน้าอก คงไม่ปล่อยให้อยู่แบบนี้ทั้งคืน จนมาเสียชีวิตแบบนี้หรอก นายชาญยุทธ์ฯ กล่าวปิดท้าย
……….ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุและบันทึกเป็นหลักฐาน ก่อนจะประสานญาติผู้เสียชีวิตไปที่ รพ.แพร่ เพื่อทำการผ่าพิสูจน์ว่าสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตคืออะไร.
