(มีคลิป)ชาวสวนเขื่อน2หมู่บ้าน ทำประชาคม 100% ไม่เอาฟาร์มหมูส่งกลิ่นเหม็น

433
0
- ผู้สนับสนุนแพร่ข่าว -

เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 22 ม.ค.66 เทศบาลตำบลสวนเขื่อน นำโดย นายณัฐ วังกาวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลสวนเขื่อน พร้อมคณะผู้บริหารฯ ร่วมกับ ชาวบ้านหมู่ 9 หมู่ 10 ต.สวนเขื่อน จัดเวทีประชาคมเพื่อทำประชาพิจารณ์การขอเลี้ยงหมูของฟาร์มหมู แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่เขตติดต่อ ต.บ้านถิ่น – ต.สวนเขื่อน ซึ่งส่งกลิ่นเหม็นขี้ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน ณ ศาลากองทุนหมู่บ้านหัวทุ่ง หมู่ 9 ต.สวนเขื่อน อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ โดยมีชาวบ้านเข้าร่วมกว่า 60 คน โดยมี นายธนะชัย มงคลพินิจ กล่าวเปิดการประชาคมและมีเจ้าของฟาร์มพร้อมเจ้าหน้าที่ของบริษัทมานำเสนอผลงานการปรับปรุงแก้ไขฟาร์มแก่ชาวบ้าน

โดยทางฟาร์มได้ระบุว่า หลังจากที่ครั้งก่อนเกิดปัญหา เพราะบ่อแกสตัน ทำให้ขี้หมูล้นบ่อจนส่งผลให้ ชาวบ้านใกล้เคียงฟาร์ม ทั้ง 2 ตำบล ได้รับผลกระทบเพราะเหม็นกลิ่นขี้หมู นั้น หลังเกิดปัญหาได้แก้ไขแล้วและหยุดการเลี้ยงไปแล้ว 3 เดือน นอกจากนั้น ยังได้ให้เจ้าหน้าที่บริษัท เข้ามาตรวจสอบและประปรุงป้องกันไม่ให้มีกลิ่นขี้หมูไปกระทบชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง อีกหลายอย่าง วันนี้ จึงได้ปรับปรุงแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยการเปิดบ่อแก๊ส และตักเอาขี้หมูออก เพื่อหารอยรั่วและจุดที่มันตัน โดยจะให้ชาวบ้านเอาขี้หมู น้ำขี้หมูเอาไปใส่สวนใส่นาฟรีได้เลย ซึ่งการลงทุนนี้ หมดเงินอีกหลายแสนบาท และจะมีการปลูกต้นไม้ ใช้ผ้าบังลม และใช้ละอองน้ำพ่นดับกลิ่น แต่จะของฟังเสียงของชาวบ้านก่อน ว่าจะให้เลี้ยงต่อหรือไม่

โดยมีชาวบ้านต่างให้เหตุผลว่า หากให้ฟาร์มลงทุนอีกก็จะเสียปล่าว เพราะว่ามันจะต้องมีกลิ่นมาอีกแน่นอน หากมีกลิ่นอีกชาวบ้านก็จะต้องเดือดร้อนและประท้วงอีกไม่จบสิ้น ซึ่ง ต.สวนเขื่อน เป็นตำบลที่จังหวัดแพร่ ต้องการให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก ของ จ.แพร่ หากมีกลิ่นแบบนี้ การท่องเที่ยวก็ไร้ประโยชน์ และชาวบ้านยังจะต้องได้รับผลกระทบทั้งร่างกาย จิตใจ จึงไม่อยากให้ทางฟาร์ม เลี้ยงหมูอีก เพราะเชื่อว่า หากยังเลี้ยงอยู่อีก ปัญหาเหม็นขี้หมูก็จะเกิดขึ้นอีกแน่นอน

จากนั้นจึงทำการให้ประชาชนยกมือลงประชาวิจารณ์ พบว่า ชาวบ้านทั้งหมดไม่ให้ฟาร์มหมูเลี้ยงหมูต่อ คะแนน 100% ซึ่งหลังจากทราบผล ประธานได้กล่าวปิดการประชาคมเพื่อทำประชาพิจารณ์ ของ ต.สวนเขื่อน  โดยชาวบ้านที่ร่วมประชาคม ต่างยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้น หลังจากที่ผลประชาคมออกมา เพราะว่าเป็นการแก้ไขปัญหาแบบถาวร จึงเป็นการตัดสินใจของชาวบ้าน ที่จะเป็นผลดีของทั้ง 2 ฝ่าย

ซึ่งหลังจากนี้ผู้เกี่ยวข้อง ก็จะจัดการประชาคมเพื่อทำประชาพิจารณ์ ใน ต.บ้านถิ่น ซึ่งยังไม่ระบุว่าวันไหน เพราะเป็นพื้นที่ของฟาร์มหมู ซึ่งก็มีชาวบ้านได้รับผลกระทบเช่นกัน ต่อไป