(มีคลิป) พ่อหม้ายโบกมือบ๊ายบ่ายลาอดีตภรรยาก่อนจะไปโดดตึกชั้น 5 โรงพยาบาลเสียชีวิต

26412
0
- ผู้สนับสนุนแพร่ข่าว -

สั่งเสียตอนโบกมือลาว่า “หมูอ้วน ดูแลลูกด้วยเด้อ ลาก่อน บ๊ายบ่าย” ก่อนจะเดินเข้าไปใน รพ. อีกครั้ง ขึ้นไปตึก ชั้น 5 นั่งขอบระเบียงโบกมือคล้ายโบยบิน ก่อนจะดิ่งลงมาชั้นล่างเจ้าหน้าที่สุดยื้อชีวิตตายในเวลาต่อมา

เหตุการณ์พ่อหม้ายกระโดดตึก รพ.แพร่ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 ก.ค.2566 ขณะที่ ร.ต.อ.(ญ.) พรสุพพัตร นันต๊ะ รอง สว.สอบสวน ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ รับแจ้งว่ามีคนกระโดดตึกฆ่าตัวตายที่ รพ.แพร่ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.นรินทร์ วรรณมณี ผกก.สภ.เมืองแพร่ จากนั้นประสานสาน ด.ต.ประจักษ์ สินธุชัย และ ด.ต นรินทร์ ถุงเงิน สายตรวจ จยย. สภ.เมืองแพร่ 1402 ออกตรวจสอบเหตุตามที่ได้รับแจ้ง

เมื่อถึงที่เกิดเหตุข้างตึกอายุรกรรมชายมี จนท.รพ.ได้ช่วยกันทำ CPR. ผู้ป่วยเป็นชายรูปร่างสูงใหญ่สวมเสื้อแดง กางเกงลายพรางทหาร  ทราบชื่อตามบัตร ปชช.คือ นายจิรพงศ์ ยาสุปิ  อายุ 35 ปี  บ้านเลขที่ 28 หมู่ 9 ต.ช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่ มีอาการบาดเจ็บสีข้างมีแผลใหญ่ แขนขา หัก ทั้งหมด อาการบาดเจ็บเป็นตายเท่ากันได้รีบนำส่งห้องฉุกเฉินให้แพทย์ช่วยชีวิต

จากการสอบถาม นายชิต อายุ 56 ปี ชาวบ้านนาแหลม อ.เมืองแพร่  ผู้เห็นเหตุการณ์มาเฝ้าไข้ภรรยาและได้มานั่งอยู่โต๊ะหินอ่อน หน้าตึกอายุรกรรม ให้การว่า ระหว่างคนเองออกมานั่งพักที่หน้าตึก หลังจากที่ไปเฝ้าภรรยา เมื่อมานั่งก็ได้มองไปที่ตึก เห็นคนกระโดดตกลงมา ท่าเหมือนคนยืน ตกมาถึงพื้นดังโครม ต่อหน้าต่อตา ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตอายุ จะ 60 ปี แล้ว เพิ่งเห็นคนกระโดดตึกตายต่อหน้าต่อตาครั้งแรก

ทางด้านคนไข้ที่นอนรักษาตัวที่ชั้น 5 รพ.แพร่ เผยว่า เห็นผู้ก่อเหตุ เดินมาหน้าตึก ก่อนจะปีนหน้าต่างออกไปนอกระเบียง ก็คิดว่า เป็นคนงานที่มาก่อสร้าง หรือ ทำงานซ่อมในโรงพยาบาลหรือเปล่า จากนั้นเห็นนั่งขอบระเบียง พร้อมทั้งทำท่า โบกมือคล้าย กับ คนโบยบิน เหมือนนก จึงไม่ได้สนเพราะคิดว่าเขาคงทำงาน แต่ตอนหลังเมื่อมาดูก็ไม่เห็นคนอยู่ที่ระเบียงแล้ว ปรากฏว่า กระโดดลงไปแล้ว ซึ่งระหว่างที่คนก่อเหตุเดินมาทักก็ไม่เห็นว่าจะมีอาการอะไร ดูปกติด้วยซ้ำ

ต่อมา นพ.วิชิน โชติปฎิเวชกุล ผอ.รพ.แพร่ พร้อมคณะผู้บริหารฯ  นายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ นายอำเภอเมืองแพร่ พร้อมปลัดอำเภอ ร่วมกับพนักงานสอบสวนตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบถุงย่ามของผู้ตายที่สะพายตกลงมาด้วย มีโทรศัพท์ 2 เครื่อง แตกเสียหาย จากนั้นจึงได้ประสานญาติๆ ทราบ ต่อมาทราบว่า นายจิรพงษ์ฯ เสียชีวิตแล้ว เมื่อญาติๆ มาถึง ต่างก็ร้องให้เสียใจที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น

โดย นางสงกรานต์ กล้าหาญ อายุ 42 ปี บ้านใน ม.6 ต.ช่อแฮ อ.เมืองแพร่ แม่ยายผู้เสียชีวิต เผยว่า เช้านี้อดีตลูกเขยได้มาหา เพื่อพาลูกชายที่ไม่สบาย มาโรงพยาบาล แต่ เนื่องจากว่า ตนเองเห็นอาการ นายจิรพงษ์ฯ ลุกลี้ลุกลน คล้ายๆ อาการดีด จึงโทรไปบอกลูกสาวคือ นางสุกัญญาฯ(อดีตภรรยา นายจิรพงษ์ฯ) ให้ไปรับลูกมาเถอะ เพราะเห็นอาการของอดีตลูกเขย ลุกลี้ลุกลนผิดปกติ จึงเป็นห่วงหลาน เมื่อไปเอาหลานมาได้ ก็ทราบว่า นายจิรพงษ์ฯ กระโดดตึกที่ รพ.แพร่ เสียชีวิตไปแล้ว

ทางด้าน นางสุกัญญา กล้าหาญ อายุ 24 ปี อดีตภรรยาผู้ตายให้การว่า ตนเองเลิกกันมา ประมาณ 2 ปีกว่า แต่ก็ยังช่วยกันส่งเสียลูกและโทรปรึกษากันอยู่ วันนี้หลังจากแม่บอกให้ไปรับลูก ตนเองก็ไปรับ ปรากฏว่าระหว่างที่จะแยกจากกัน อดีตสามี ยกมือขึ้นบ๊ายบ่าย พร้อมบอกว่า “หมูอ้วน ดูแลลูกด้วยเด้อ ลาก่อน บ๊ายบ่าย” ตนเองยังบอกว่า พี่จะไปไหน ทำไมพูดแบบนั้น ไม่ห่วงลูกหรอ พร้อมสอบถามว่าจะกินอะไรไหม๊ แต่ก็ไม่ตอบ ก่อนจะเดินกลับไปที่ รพ.แพร่ และก่อเหตุกระโดดตึกดังกล่าว

ต่อมา นพ.วิชินฯ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับกรณีของ นายจิรพงศ์ฯ ที่มากระโดดดตึกชั้น 5 ของ รพ. จากการตรวจสอบไม่มีประวัติมารักษาตัวที่ รพ. และไม่มีญาติ หรือมาเฝ้าไข้ใครแต่อย่างใด เชื่อว่าจงใจเดินทางมาก่อเหตุ ซึ่งเบื้องต้นสาเหตุยังไม่ทราบได้ คงต้องทำการตรวจสอบ ส่วนมาตรการของ รพ.แพร่ เรามี เจ้าหน้าที่ของแต่ละตึกในการตรวจสอบ และการดูพฤติกรรมของคนไข้และญาติๆ อยู่แล้ว แต่กรณีนี้ ตั้งใจมาก่อเหตุ จึงเป็นเรื่องสุดวิสัย ซึ่งทาง รพ.เราจะได้มีการเตรียมมาตรการในการป้องกันดูแลในเรื่องนี้ ต่อไป