คาดว่าเครียดป่วยปวดข้ออักเสบ มาโรงพยาบาลเองบ่อย เขียนจดหมายด้วยลายมือ พร้อมเอกสารครบ 3 ฉบับก่อนจะนอนบนเก้าอี้พับกดลูกซองนัดเดียวเข้าราวนมซ้ายของตัวเองหนีโรค
เหตุการณ์คนป่วยเครียดยิงตัวเองตายครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.50 น. เช้ามืดวันที่ 12 มิ.ย.67 พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตุ้ยบุญมา สว.สอบสวน ทำหน้าที่พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ได้รับแจ้งว่ามีคนก่อเหตุยิงตัวเองที่บริเวณ จอดรถหน้าสหกรณ์โรงพยาบาลแพร่ ขอให้ตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ และประสานสายตรวจ จยย. รักษาที่เกิดเหตุ และหน่วยกู้ภัยแพร่ ก่อนจะรุดไปตรวจสอบเหตุตามที่ได้รับแจ้ง

พบว่าบริเวณลานจอดรถติดกำแพง รพ.แพร่ พบชายสูงอายุนอนบนเก้าอี้พับหลังรถเก๋ง สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพสวมเสื้อลายสก๊อตสีน้ำตาลลายน้ำเงิน สวมกางเกงสามส่วนสีเทา มีหมอนสีม่วงวางทับอยู่หน้าอก นอนหายใจรวยริน พบว่า ถูกอาวุธปืน บริเวณใต้ราวนมซ้าย และพบปืนลูกซองสั้น ไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ตกอยู่บนพื้นข้างๆ ร่าง จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.แพร่ นำไปรักษาตัวที่ ห้องฉุกเฉิน รพ.แพร่ ต่อมาได้รับแจ้งว่า ได้เสียชีวิตแล้ว

จึงทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าภายในรถ มีเอกสารจำนวนมาก วางอยู่บนเบาะรถด้านหน้าทั้ง 2 เบาะ โดยเป็นจดหมาย จำนวน 3 ฉบับ ส่งถึง ผกก.สภ.เมืองแพร่ ถึง ผอ.รพ.แพร่ และ ถึงหน่วยกู้ภัยแพร่ ตรวจสอบพบเอกสารหลักฐานทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายศุภพร อายุ 71 ปี หมู่ 7 ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ใจความในเอกสารระบุว่า ก่อเหตุเองเพราะเครียดที่เป็นโรคปวดข้อปวดเข่า ขออุทิศร่างกายให้ รพ.หากไม่ได้ ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างไปฌาปนกิจเลยไม่ต้องสวด

จากการสอบสวน นายพรชัย สุคันธมาลา อายุ 53 ปี อาสาจราจรเคลื่อนที่ รพ.แพร่ ให้การว่า ขณะที่ตนเองอยู่เวร ได้ยินเสียงดังตูม 1 นัด และนกที่เกาะอยู่เสาไฟฟ้า บินแตกตื่น ตนเองคิดว่าหม้อแปลงระเบิด จึงได้บอกมให้น้องที่อยู่เวรด้วยกันไปดูว่าเกิดอะไร เมื่อเข้าไปดูจุดเกิดเหตุก็พบว่า ไม่ใช่หม้อแปลงระเบิด กลายเป็นคนป่วยยิงตัวเอง เพราะเห็นปืนตกอยู่ปลายเท้า นอนหายใจรวยริน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบและประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.แพร่ มารับไปรักษาตัวดังกล่าว

จากนั้นพนักงานสอบสวน จึงบันทึกที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน นำอาวุธปืนของกลางไปเก็บ และนำรถไปเก็บไว้ที่ สภ.เมืองแพร่ ประสานแจ้งให้ครอบครัวทราบ ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป ทาง รพ.แพร่ ได้ทำเจาะเลือดผู้เสียชีวิตส่งตรวจ ถ้าผลการตรวจผ่านจะได้บริจาคดวงตาได้ ส่วนศพไว้ที่ห้องเก็บศพ รอประสานที่ รพ.เชียงใหม่ มารับร่างต่อไป.
