……….หลังจากที่มีคลิปเป็นข่าวทางทีวี มีหญิงสาวคนหนึ่ง ถูกกระชากผมทำร้ายที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เหตุเพราะเธอไปจองที่นั่งแถวหน้าในรถตู้ ต่อมาพี่สาวหญิงถูกกระชากผมมาตบ เผยว่าเป็นห่วงน้องสาวมากเพราะอยู่ไกลบ้าน
……….ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ไทยรัฐทีวีเสนอข่าว “จิกหัว-กระชากผม” ฉุนจองเบาะรถตู้แถวหน้า | 15-09-63 | ข่าวเช้าหัวเขียว โดยโปรยใต้คลิปในยูทูปว่า ปกติได้ยินข่าวแต่รถรับจ้างแย่งผู้โดยสาร จนกับมีการทะเลาะวิวาทกัน แต่คราวนี้เป็นผู้โดยสารแย่งที่นั่งกัน ในรถตู้จนถึงกับมีการทำร้ายกัน สาวคนหนึ่งโพสต์คลิป ถูกกระชากผมทำร้ายที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เหตุเพราะเธอไปจองที่นั่งแถวหน้าในรถตู้ นั้นเบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า หญิงสาวที่ถูกจิกหัวตบ เป็นชาว อ.สอง จ.แพร่ ที่ไปทำงานอยู่กรุงเทพมหานคร
……….ต่อมาเวลา 13.00 น. วันที่ 15 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าว จึงได้เดินทางไปพบกับ น.ส.หทัยรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 300/27 หมู่ 7 ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ เจ้าของร้าน ครัวศรัทธา ซึ่งเป็นพี่สาวของหญิงสาวที่ถูกกระชากผมมาตบในคลิป เผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากได้เห็นคลิปปรากฏในข่าว ทำให้เธอ อึ้ง และเป็นห่วงน้องสาวอย่างมาก เพราะไปถูกใครไม่รู้ทำร้าย ไม่สามารถไปช่วยเหลือได้ เพราะอยู่ไกลกัน ยอมรับตนเอง และทางบ้านเป็นห่วงน้องสาวมาก
……….จากการได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ถ่ายเหตุการณ์ไว้ได้ เธอเห็นแล้วรู้สึกว่าหนักและทำกันเกินไป เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น น้องสาวเธอเล่าว่า ไม่ได้พูดตอบโต้อะไรกับคู่กรณีเลย จนกระทั่งมาถูกกระชากผมตบ ตนเองเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ คู่กรณีที่เป็นหญิงสาวสูงอายุ ไม่สามรถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ อยากให้ครอบครัวคู่กรณีตรวจสอบว่าป่วยไหม เพราะไม่รู้ว่า เมื่อทำกับน้องสาวเธอแบบนี้แล้ว จะไปทำคนอื่นอีกไหม และสิ่งที่อยากฝากบอกคือขอให้ออกมารับผิดชอบในสิ่งที่กระทำด้วย น.ส.หทัยรัตน์ฯ กล่าวปิดท้าย.