เรื่องราวของพ่อบ้านบอกภรรยาและลูกว่าจะมาทำความสะอาดบ้านอีกหลังรับสงกรานต์แต่มาก่อเหตุอัตวินิบาตกรรมตัวเองด้วยปืนครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 9 เม.ย.67 ร.ต.อ.(ญ) นุชนาฏ มูลอะมี รอง สว.สอบสวน ทำหน้าที่พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ได้รับแจ้งเหคุว่ามีคนเสียชีวิตด้วยอาวุธปืน ที่บ้านเลขที่ 192/2 ม.1 บ้านร่องฟอง ต.ร่องฟอง อ.เมืองแพร่ ให้ตรวจสอบหลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.เมืองแพร่ ตร.พิสูจน์หลักฐาน จ.แพร่ แพทย์เวร รพ.แพร่ และหน่วยกู้ภัยแพร่ ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูง ภายในห้องเก็บของ พบร่าง นายเกียรติศักดิ์ หรือติ่ง กาทองทุ่ง อายุ 57 ปี เจ้าของบ้านใช้อาวุธปืน ขนาด 9 ม.ม. ยิงตัวเองในสภาพ นอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดสีแดงเลือดหมู กางเกงสามส่วนสีดำ นอนคว่ำหน้ากับถุงผ้า จากการตรวจสอบพบขมับขวามีรอยกระสุนปืน และมีปืนตกอยู่ข้างศีรษะ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วเกินกว่า 4 ชั่วโมง เพราะร่างเริ่มแข็ง แพทย์เวร รพ.แพร่ ร่วมชันสูตรพลิกศพ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนบันทึกที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม นางจุฑารัตน์ ฟูธรรม อายุ 53 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิตทราบว่า ตนเองอยู่คนละบ้านดับพี่ชาย เย็นวันนี้ประมาณทุ่มกว่าๆ พี่สะใภ้โทรมาบอกว่า ช่วยไปดูที่บ้านหน่อย พี่ติ่ง มาทำความสะอาดบ้านตั้งแต่ เช้าแล้ว ติดต่อไม่ได้ โทรก็ไม่รับ จากนั้นตนเองจึงออกจากบ้านมาดูพบว่า มีรถกระบะ จอดอยู่ในบ้าน และประตูหน้าบ้านล็อค ตนเองเรียกอย่างไรก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงไปเรียกญาติๆ มาช่วยกันปีนบ้าน ขึ้นไปดู ก็พบว่า พี่ติ่ง ก่อเหตุ ยิงตัวเองตายไปเสียแล้ว สำหรับบ้านหลังนี้เป็นบ้านของพี่ติ่งที่อยู่กับพ่อ-แม่มานาน ก่อนที่พ่อ-แม่ จะเสียชีวิตไป พี่ติ่ง จึงไปอยู่บ้านภรรยา แต่ก็จะกลับมาทำความสะอาดบ้านบ่อยครั้ง

ทางด้าน นางน้ำผึ้ง กาทองทุ่ง ซึ่งเป็นภรรยาและเป็นผู้ใหญ่บ้านร้องขี้ปลา ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่ ทราบว่าสามีเอารถกระบะ ออกมาทำความสะอาดบ้านตั้งแต่เช้าวันนี้ เพราะใกล้จะถึงช่วงสงกรานต์แล้ว แต่ผ่านไปจนจะค่ำ ยังไม่กลับบ้าน ตนเองและลูกโทรหา ก็ไม่รับสายจึงให้น้องสะใภ้มาดูพบว่าก่อเหตุเสียชีวิตแล้ว สำหรับพี่ติ่ง เป็นโรคซึมเศร้า ตั้งแต่แม่ตายปีที่ผ่านมา ตนเองพยามไม่อยากให้อยู่คนเดียว และห้ามเพื่อนทุกคนว่า ห้ามเอาปืนให้พี่ติ่ง และระยะหลังมีโรคประจำตัว เช่น ความดัน เกาต์ และล่าสุดเป็นกลดไหลย้อน คาดว่า อาจจะคิดมากจึงทำให้มาก่อเหตุดังกล่าว

เบื้องต้นญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจนของทุกฝ่าย จึงได้นำร่างไปผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดที่ รพ.แพร่ จากนั้นมอบร่างให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.
