(มีคลิป) เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่รับฟังข้อเสนอและแนวทางในการแก้ปัญหาเพื่อเพิ่มรายได้ ภาคธุรกิจ กลุ่มอาชีพและภาคประชาชน

516
0
- ผู้สนับสนุนแพร่ข่าว -

วันนี้ 19 มิถุนายน 2566 เวลา 16.30 น. ที่โรงแรมแพร่นครา ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมคณะ ส.ส.ภาคเหนือ พรรคเพื่อไทย เดินทางมาฟังข้อเสนอและแนวทางในการแก้ปัญหาเพื่อเพิ่มรายได้ เพิ่มตังในกระเป๋าให้กับภาคธุรกิจ กลุ่มอาชีพและภาคประชาชน จ.แพร่ โดยมี ดร.วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ เขต 3, นพ.นิยม วิวรรธนดิฐกุล ส.ส.แพร่ เขต 2 นายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายก อบจ.แพร่ ส.อบจ.แพร่ และตัวแทน 22 องค์กรภาคธุรกิจแพร่ ให้การต้อนรับ

เมื่อมาถึง นายเศรษฐาฯ ได้ร่วมถ่ายรูปกับแขกผู้มีเกียรติ ก่อนจะเยี่ยมชมบูธของศูนย์น้ำ อบจ.แพร่ และพบปะกลุ่มอาชีพสำคัญในจังหวัดแพร่ และรับฟังปัญหาแนวทางการขอรับการสนับสนุน จากนั้นคณะทั้งหมดรับชม VTR บรรยากาศ ของวันที่ 17 มิ.ย. 2566 การระดมและรับฟังความคิดเห็น ของหน่วยงาน และกลุ่มองค์กรต่างๆ เช่น กลุ่ม การแก้ไขปัญหาอุทกภัยใหญ่ในลุ่มน้ำยมที่เกิดขึ้นประจำทุกปี

โดย นายอนุวัธ วงค์วรรณ นายกอบจ.แพร่  กลุ่ม ภาคเอกชน ประกอบด้วย หอการค้า สภาอุตสาหกรรม (ภาพรวม) โดย นายเอกชัย วงศ์วรกุล ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ หอการค้าจังหวัดแพร่ คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเหนือ หอการค้าไทย ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดแพร่  และ คุณอดิศร ไชยบุญเรือง ประธานหอการค้าจังหวัดแพร่ ความต้องการของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ โดย นายกฤตตานนท์ ถนอมทรัพย์ทวีประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ กลุ่มท่องเที่ยว และบริการ โดย นางเสาวลักษณ์ วิสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ กลุ่มการยกระดับภาคอุตสาหกรรม โดย นางภูวษา สินธุวงค์ ประธาน Cluster Development Agent (CDA) คลัสเตอร์พัฒนา ธุรกิจอาหารแปรรูป

นายเศรษฐา ทวีสิน กล่าวว่า ที่ตนเองมาในวันนี้ ตนเองไม่ได้มาเพื่อขอบคุณหรือมาหาเสียงกับพี่น้องชาวแพร่ แต่ต้องการมาฟังปัญหาและความต้องการของทุกฝ่ายในการพัฒนาจังหวัดแพร่ ซึ่งการลงพื้นที่แบบนี้ ตนเองจะนำไปเป็นบรรทัดฐานของพรรคเพื่อไทย ในการลงพื้นที่พบปะรับฟังความเดือนร้อนหรือความต้องการของชาวบ้าน ไม่ใช่ว่ามารับฟังปัญหาแต่ฉาบฉวยทำครั้งเดียวแล้วหาย ตนเองจะทำอย่างต่อเนื่องและจะทำตลอดไป ส่วนการมาในวันนี้ ได้รับฟังปัญหาต่างๆ จากทุกภาคส่วนแล้ว ทางพรรคเพื่อไทยก็จะยืนยันว่าจะนำปัญหาทุกอย่างไปให้ทีมงานแยกว่าจะแก้ไขปัญหาในส่วนไหนได้ ก็จะกลับมาพูดคุยในพื้นที่อีกครั้ง เพื่อบริหารจัดการเรื่องต่างๆ ให้ลุล่วง ต่อไป ส่วนไหนหรือปัญหาไหนแก้ได้ก็จะแก้ ส่วนปัญหาที่แก้ไม่ได้ก็จะบอกไปตามความเป็นจริง อย่างตรงไปตรงมาด้วยความจริงใจ.