โดยจัดเวทีปราศรัยแบบการเสวนา โดยให้เกษตรกร พูดถึงปัญหาต่างๆ ให้ทราบ เพื่อการแก้ไขปัญหาให้เกษตร พร้อมเหน็บ อยู่มา 8 ปี มีแต่ตลาดเก่าต้องหาตลาดใหม่ เช่น แอฟริกา เป็นต้น
แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พบเกษตรกรชาว อ.วังชิ้น จ.แพร่ เมื่อบ่ายวันที่ 9 เมษายน 2566 เวลา 13.30 น. ที่สวนทุเรียน ลุงดี บ้านแม่จอก หมู่ที่ 5 ต.แม่ป้าก อ.วังชิ้น จ.แพร่ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด น.ส.ตรีชฏา ศรีธาดา นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ผู้สมัคร สส.แพร่ เบอร์ 5 เขต 3 โดยมีมวลชนจาก อ.ลอง และ อ.วังชิ้น รวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ ร่วม 500 คนมาร่วมต้อนรับ
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดต นายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ได้ร่วมรับฟังปัญหากับตัวแทนเกษตรผู้ปลูกทุเรียน ส้มโอและยางพารา กล่าวว่า เป็นที่น่าทึ่งมากที่มาเห็นต้นทุเรียนต้นโต พรรคเพื่อไทยได้มีการศึกษา ร่วมกับ ม.แม่โจ้ ในการแก้ปัญหาโรคลำต้นทุเรียน โดยฉีดยาที่โคนต้น การทำสวนทุเรียน ส้ม ส้มโอดีกว่าการทำไร่เลื่อนลอย เพิ่มพื้นที่แหล่งน้ำ ชลประทานแก้ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาการตลาดนั้นเราต้องเพิ่มช่องทางการค้าขาย ไม่ใช่ว่าอยู่มาตั้ง 8 ปี มีตลาดที่จีน ยุโรป แอฟริกามีพลเมืองเป็นพันล้านก็มีความต้องการ ต้องเจรจาการค้าด้วย ส่วนการแก้ไขปัญหาน้ำมันแพง ต้องหาพลังงานทดแทนแหล่งผลิต ศึกษาภาษีสรรพสามิต
ด้าน นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึง การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกสวนยางว่า สมัยรัฐบาล ดร.ทักษิณ ราคายาง ก.ก.ละ 100 กว่า สมัย นายกยิ่งลักษณ์ ราคาแตะ 80-90 บาทพอมีรัฐประหาร เหลือราคา 3 กก.100 บาท การแก้ไขปัญหาต้องใช้กลไกของตลาดและส่งเสริมให้มีการใช้ผลิตภัณฑ์ยางพาราให้ มากขึ้น
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ผู้สมัคร ส.ส.แพร่ เบอร์ 5 เขต 3 พรรคเพื่อไทย จ.แพร่ กล่าวว่า หากต้องการให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลต้องแลนด์สไลด์ ทั้ง 3 เขตและเลือกพรรคเพื่อไทย เบอร์ 29 คนที่มีที่ดินทับซ้อนป่าจะได้มีโฉนด เติมเงินดิจิทัล คนละ 1หมื่นบาท ครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 2 หมื่นก็จะได้ 2 หมื่น การอบรมทักษะอาชีพต่อยอดสร้างรายได้ปีละ 2 แสนบาท ยาบ้าต้องหมดไป ไม่เอากัญชา จึงขอให้ชาวแพร่ เทคะแนนให้ ส.ส.แพร่ พรรค เพื่อไทย แบบแลนด์สไลด์เท่านั้น.
