หนุ่มใหญ่รอดตายหวุดหวิด!ขับปิคอัพถึงหน้าศาลแม่นางแก้วเหม็นกลิ่นไหม้และมีประกายไฟจอดรถไฟลุกพรึ่บวอดทั้งคัน

4012
41
- ผู้สนับสนุนแพร่ข่าว -

เหตุการณ์สุดระทึกไฟไหม้รถยนต์เกิดขึ้นเมื่อคืน วันที่ 27 พ.ย.64 เวลา 19.30 น.ขณะที่ ร.ต.อ.ครรชิต ตื้อยศ รอง สวป.สภ.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ ร้อยเวรหัวหน้าสายตรวจพร้อมกำลังสายตรวจรถยนต์ออกตรวจเพื่อป้องปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งในพื้นที่รับผิดชอบ ตามที่ได้รับมอบหมายจาก  พ.ต.ท.กิตติพงษ์ กังวาลไกล สวญ.สภ.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ พ.ต.ท.วิทูล สีตะวัน สวป. ขณะตรวจมาถึงบริเวณทางหลวง 101 ระหว่างหลัก กม.ที่193-194 บ้านเปาปมดงยาง ม.7 ต.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่

พบรถยนต์กระบะ มิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า สีบรอนซ์ทอง เลขทะเบียน บพ 4277 สุโขทัย จอดอยู่บริเวณไหล่ทางเลนขาขึ้นห่างจากศาลเจ้าแม่นางแก้วประมาณ 300 เมตร ได้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นบริเวณห้องเครื่องยนต์ จึงได้ทำการช่วยเหลือและประสานกับ นายศักดิ์ธันวา มูลเทพ นักพัฒนาชุมชนรักษาราชการแทนหัวหน้างาน ปภ.อบต.นาพูน นำรถดับเพลิงมาทำการฉีดน้ำดับเพลิงโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที จึงควบคุมเพลิงได้ สภาพรถเสียหายทั้งคันไม่สามารถซ่อมให้กลับมาใช้งานได้ 

จากการสอบถาม นายมานัส จินดาสถาน อายุ 55 ปี 74/3 ม.3 ต.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ ผู้ขับขี่และเป็นเจ้าของรถให้การว่าได้ขับรถมาจากบ้านนาปลากั้ง ม.3 ต.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ จะไปทำธุระที่บ้านพี่ชายในเขต อ.เด่นชัย ขณะขับผ่านมาถึงบริเวณหน้าศาลเจ้าแม่นางแก้วซึ่งเป็นศาลที่ชาวบ้านเคารพบูชามาช้านานจะเป็นด้วยบารมีของแม่นางแก้วทำให้ตนได้มีกลิ่นเหม็นไหม้และเห็นประกายไฟขึ้นบริเวณหน้าห้องเครื่องจึงได้จอดรถข้างทางแล้วรีบลงมาจากรถ และมีไหม้รถขึ้นอย่างรวดเร็วและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเมืองดีที่ผ่านเส้นทางมาช่วยเหลือประสานรถดับเพลิงมาช่วยกันดับ ตนเองวิดตายไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

สาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรบริเวณด้านหน้าของห้องเครื่องยนต์ เพราะก่อนหน้านี้ประมาณ 3 วัน ได้นำรถไปซ่อมเกี่ยวกับไฟหน้า-ไฟเลี้ยวไม่ออกที่อู่ซ่อมในเขต อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ก่อนจะมาเกิดเหตุไฟไหม้รถดังกล่าว