(มีคลิป) ระทึกไฟลุกไหม้รถเก๋งกลางแยกบ้านฝ้ายพลเมืองดีเปิดกระโปรงฉีดน้ำยาดับเพลิง

1792
0
- ผู้สนับสนุนแพร่ข่าว -

เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 15 ม.ค.66 ร.ต.อ.จงเย็น โปธาตุ รอง สว.สอบสวน ทำหน้าที่พนักงานสอบสวนเวร สภ.สูงเม่น รับแจ้งเหตุมีรถเก๋งไฟไหม้ ที่แยกบ้านฝ้าย ต.ร่องกาศ อ.สูงเม่น จ.แพร่ ไม่ทราบว่ามีผู้บาดเจ็บหรือไม่ หลังรับแจ้งจึงประสานรถดับเพลิง อบต.ร่องกาศ อบต.เวียงทอง และ หน่วยกู้ภัยสูงเม่น และใกล้เคียง ออกช่วยเหลือ ก่อนจะรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง

พบรถ เก๋ง ยี่ห้อ นิสสัน ทีด้า สีดำ ทะเบียน ชบ 4767 กรุงเทพ จอดอยู่ชิดถนนติดไฟแดงจุดจาก ต.นาจักร จะอ้อมเข้าใน อ.เมืองแพร่ สภาพ เพลิงลุกไหม้หน้ารถซึ่งเป็นห้องเครื่อง พบว่ามีพลเมืองดีที่ประสบเหตุ ได้นำถังดับเพลิงออกมาช่วยเหลือดับไฟที่ลุกไหม้ ก่อนที่รถดับเพลิงจากมาถึง และทำการใช้น้ำฉีดพ่น ประมาณ 5 นาที ไฟจึงดับ พบว่าสายไฟ และอุปกรณ์ที่หน้ารถ เสียหายไหม้หลอมละลายเพราะความร้อน

จากการสอบถาม นายไวกูล สำเนียง อายุ 45 ปี ชาวบ้านกาญจนา ต.กาญจนา อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ เจ้าของให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองจะเอารถ มาซื้อของ โดยแวะเติมน้ำมัน เต็มลมที่ปั้ม แต่ระหว่างขับรถออกจากปั้ม ได้กลิ่นเหม็นไหม้ จึงเปลี่ยนใจจะไปเช็ครถที่ศูนย์นิสสันแทน โดยระหว่างนั้นได้โทรประสานช่างที่ศูนย์ทราบ แต่เมื่อจอดติดไฟแดง เกิดควันขึ้นที่หน้ารถ ตนเองจึงได้ เปิดประตูออกมา ขอความช่วยเหลือโดยซ้อนรถ จยย.ส่งอาหาร ไปหาช่างที่ศูนย์ เพื่อจะไปบอกให้มาดู เมื่อกลับมาพบว่า รถไฟไหม้ และมีพลเมืองดีมาช่วยอยู่ เบื้องต้นคาดว่าจะเกิดจากสายไฟช็อต เพราะก่อนหน้านั้น 2-3 วัน ได้เอารถไปล้างอัดฉีดมา น้ำอาจจะเข้าไปทำให้สายไฟช็อตจนเป็นสาเหตุไฟไหม้ก็เป็นได้

ทางด้าน นายเป็ด อายุ 38 ปี พลเมืองดีชาวกรุงเทพมหานครที่ประสบเหตุ เผยว่า ระหว่างที่ตนเองขับรถมากับเพื่อนมาจาก อ.สูงเม่น มาติดไฟแดง เห็นรถที่จอดติดไฟแดง ทางขวามือ มีควันขึ้นและไฟลุกไหม้ จึงตัดสินใจ ขับรถย้อนศรเข้าไปช่วยดับไฟ เพราะที่รถมีถังดับเพลิงอยู่ 2 ถัง โดยเตรียมถุงมือ และเสื้อแขนยาวลงไปช่วย เพราะกลัวไฟมันจะไหม้แขน โดยเริ่มจาก เข้าไปเปิดฝากระโปรง ให้อ้าออก เนื่องจาก หากฉีดสารเคมีข้างนอก มันก็จะไม่โดนไฟ เมื่อเปิดออก ได้ จึงใช้ถังดับเพลิงฉีด ไฟจึงเบาลง และมีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์เอาขวดน้ำมาช่วยกันดับไฟจึงไม่ลุกลามไปมากกว่านี้ จนกระทั่งรถดับเพลิงมาดับเพลิงได้ดังกล่าว

จากนั้นพนักงานสอบสวน ได้บันทึกที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน และตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า รถเกิดไฟลุกขึ้นเอง และไม่มีทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย จากนั้นได้ให้เจ้าของรถ ประสานรถยกมายกรถออกจากจุดเกิดเหตุ เพื่อจะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป