(มีคลิป) โจ๋ใจบาปย่องเข้าวัดขโมยของตุ๊เจ้าสุดท้ายโดนรวบตรวจฉี่เป็นสีม่วง

4462
0
- ผู้สนับสนุนแพร่ข่าว -

เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 25 ก.พ.64 พ.ต.อ.นรินทร์ วรรณมณี ผกก.สภ.เมืองแพร่ และ พ.ต.ท.ยรรยงค์ สุริยะมณี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองแพร่ สั่งการให้ พ.ต.ท.ดิเรก กาศจักร สว.กสส.สภ.เมืองแพร่, ร.ต.อ.รณชัย จิตตะ รอง สว.สส.ฯ , ร.ต.อ.ภาณุพันธุ์ ทะนันชัย รอง สว.ฯพร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองแพร่ นำตัว นายภูตินันท์ หรือ ปริ้น หวังศิริ อายุ  22 ปี  บ้านเลขที่ 51/1 ม.3 ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ นายอนุพงษ์ หรือจ๋อย เรืองเกษม อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 14 ม.5 ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่วัดนาจักร ม.5 ต.นาจักร อ.เมืองแพร่

หลังจากที่ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 13.30 น.  วันที่ 24 ก.พ.2564 สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ โน้ตบุค และกระเป๋าเงิน ที่วัดนาจักร ม.5 ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ ผู้เสียหายคือ สามเณรปกรณ์ แสนย่าง อายุ 17 ปี จนกระทั่งชุดสืบสวน สภ.เมืองแพร่ สืบทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายภูตินันท์ หรือ ปริ้น หวังศิริ และ นายอนุพงษ์ หรือจ๋อย เรืองเกษม จึงได้วางแผนการจับกุม โดยสามารถควบคุมตัวที่ได้ที่หอพักบ้านนาแหลม อ.เมืองแพร่ พร้อมรถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า เอ็ม แอส เอ๊กซ์ สีแดง ทะเบียน  1 กข 3517 แพร่ ที่ใช้ก่อเหตุ

โดยจากกการสอบสวนทั้งสอง ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2564 ได้ร่วมกันลักคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ยี่ห้อ เอซุส จำนวน 1 เครื่อง ราคา ประมาณ 10,000 บาท ของพระภิกษุที่วัดนาจักร จริง โดยใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเอ็มเอสเอ็ก สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดไว้ข้างวัดนาจักร และ นายภูตินันท์ หรือ ปริ้น เป็นคนเดินเข้ามาลักทรัพย์ภายในกุฏิ ส่วน นายอนุพงษ์ หรือจ๋อย เป็นคนดูต้นทางและขี่ จยย.ยานพาหนะในการหลบหนี ชุดสืบสวน จึงได้ติดตามคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ยี่ห้อ เอซุส จำนวน 1 เครื่อง ของกลางคืนมาได้ และตรวจพบสารเสพติดในร่างกายของทั้ง 2 คน นอกจากนี้ยังพบว่าเคยก่อเหตุลักทรัพย์ที่วัดต้นห้า ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่ มาแล้วอีกด้วย

จึงได้ทำการตรวจยึดจัดทำบันทึก พร้อมนำตัวบุคคลทั้ง 2 ส่ง พ.ต.ท.อุทัย เวียงทอง พงส.สภ.เมืองแพร่ ดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ในสถานบูชาสาธารณะโดยใช้ยานพาหนะฯ ต่อไป

ทางด้าน พระครู อนุกูลธรรมวงศ์  วิสารโธ เจ้าอาวาสวัดนาจักร เจริญพรว่า วันเกิดเหตุขณะที่ผู้ต้องหาลงมาจากกุฏิ อาตมาเดินออกจากห้องมาเห็นพอดี จึงได้ตะโกนไล่หลังไปว่า มาเอาอะไรไป ให้นำกลับมาคืนเสียนะ แต่ผู้ต้องหาไม่ฟัง กลับวิ่งออกจากวัดไป แต่เนื่องจากว่าคนก่อเหตุอาตมาคาดว่า จะเป็นนายปริ้นฯ เพราะเคยมาบวชเป็นสามเณรที่วัดนาจักรแห่งนี้ หลายพรรษา อาตมาเคยพร่ำสอน เพราะเป็นลูกศิษย์อาตมา  แต่ นายปริ้นฯ ไม่เอาถ่าน จึงออกโรงเรียนและลาสิกขา จนกระทั่งกลับมาก่อเหตุที่วัดดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มีชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดทราบข่าว ต่างมาดูหน้าผู้ต้องหา เมื่อเห็นหน้าว่าเป็น นายปริ้นฯ ต่างก็ตกใจ  และไม่คิดว่า นายปริ้น จะทำได้ เพราะเคยบวชเป็นสามเณรที่วัดแห่งนี้ เมื่อลาสิกขาบท แล้ว ก็ยัง มาเที่ยว เข้า-ออกๆ วัดบ่อยครั้ง ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุลักทรัพย์ในวัดได้ ไม่กลัวบาปจริงๆ