……….เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 ธ.ค.63 ที่หน้า สภ.เมืองแพร่ ได้มี น.ส.เอฯ(นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ชาวบ้านเหมืองหม้อ อ.เมืองแพร่ นายบีฯ อายุ 25 ปี ชาว ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ เป็นตัวแทนผู้เสียหายจากการลงทุนทำลานเบียร์ในกาดกางจ้อง และ ลงทุนจองซุ้มขายอาหารในลานเบียร์ ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองแพร่ เพื่อเข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.ปกิต ผัดขัน สว.สอบสวน สภ.เมืองแพร่ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวน ประจำวัน สภ.เมืองแพร่ ขอให้ตำรวจดำเนินคดี เรื่องการถูกหลอกให้ลงทุนในกาดกางจ้อง ซึ่งมีที่ตั้งโครงการอยู่ถนนเลี่ยงเมือง ต.นาจักร อ.เมืองแพร่โดยวันนี้ได้ประสานกับผู้เสียหายหลายๆ คน เพื่อเดินทางมาแจ้งความเอาผิดกับ เจ้าของโครงการ
……….เมื่อ พ.ต.ท.ปกิต ผัดขัน สว.สอบสวนสภ.เมืองแพร่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ เห็นหลักฐานเป็นสัญญาเช่าที่ ไม่สามารถจะดำเนินคดีได้จึงนำกลุ่มผู้แจ้งความไปพบกับนายศักดา ภู่พลับ ทนายอาสา ประจำสภ.เมืองแพร่
…………โดย น.ส.เอฯ ได้เล่าให้ทนายอาสากับตำรวจฟังว่า ได้เห็นภาพโครงการกาดกางจ้องจากเฟซบุ๊ก ที่โฆษณาว่าจะเปิดอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดใน จ.แพร่ เธอที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ แต่อยากกลับมาใช้ชีวิตที่บ้าน จึงได้นำเงินเก็บมาลงทุนลานเบียร์ที่กาดกางจ้อง โดยได้ประสาน นายธนภาคย์ฯ ซึ่งเป็นซีอีโอ โครงการกาดกางจ้อง จ.แพร่ โดยทำสัญญาจ่ายเงินทั้งหมด 2.5 แสนบาท โดยตนเองจะต้องลงทุนซื้อเครื่องคิดเงิน และต้องสร้างโครงสร้างของร้านเบียร์เอง เธอจึงออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง
……….โดยทีแรกบอกว่าจะเปิดเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เปิด กลับมีข้ออ้างเกิดโรคติดต่อระบาดเชื้อไวรัส โควิด-19 เลื่อนมาในวันที่ 19 ตุลาคม 2563 ทุกอย่างเหมือนเดิม ยังไม่ได้เปิดตลาด จนกระทั่งทุกวันนี้มีแต่ที่ดินว่างเปล่าพร้อมเสาไม้ไผ่ทาสีขาว แต่ไม่ทำกิจกรรมอะไรเลยในพื้นที่จนถึงปัจจุบัน ระหว่างนั้น ตนเองจึงทวงถามเรื่องนี้ แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ผลัดวันประกันพรุ่ง จนตนเองคิดว่าไม่ไหวแล้ว กลัวว่าเจ้าของกาด จะไปหลอกเอาเงินคนอื่นแล้วมาคืนเธอ ตนเองกลัวเป็นบาป จึงได้มาแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของโครงการ
……..ทางด้าน นายบีฯ ให้การว่า หลังจากเห็นผู้เสียหายหลายคน ตกลงเดินทางมาแจ้งความ ตนก็ถูกหลอกขายซุ้มกับแกล้มในลานเบียร์ จ่ายเงินไปแล้ว 1,500 บาท แต่ต้องลงทุนซื้อแฟรนด์ไชด์ทำกับแกล้ม และอุปกรณ์การทำครัว รวมๆ แล้วเกือบ 3 หมื่นบาท ตอนแรกคิดว่า จะไม่แจ้งความแล้ว ถือว่าชาติที่แล้วเราอาจจะทำกับเข้าไว้ แล้วเขามาเอาคืน แต่เห็นว่า เพจของ กาดฯ ยังเปิดอยู่ และยังโพสเชิญชวนผู้สนใจเข้ามาร่วม จองร้านในกาดอยู่ เกรงว่าจะมีคนหลงเชื่อแบบตน เสียเงินเสียทอง โดนหลอก จึงได้คิดว่ามาแจ้งความดีกว่าแม้ว่าจะเป็นเงินไม่มาก แต่สามารถเป็นการเตือนไม่ให้คนอื่นมาหลงเชื่ออีก
………หลังจากทนายอาสาและตำรวจได้ดูหลักฐานของกลุ่มผู้มาแจ้งความแล้วยังไม่สามารถเอาผิดได้ให้กลุ่มผู้ร้องไปรวบรวมหลักฐานให้แน่นหนาและรวบรวมผู้เสียหายมากันหลายๆคนจะสามารถดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของโครงการกาดกางจ้องในข้อหาฉ้อโกงได้ กลุ่มผู้แจ้งความจึงกลับไปรวบรวมหลักฐานและผู้เสียหายอีกหลายคนมาดำเนินการต่อไป
………..สำหรับโครงการกาดกางจ้อง จ.แพร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ ติดกับถนนสายซุปเปอร์สายแพร่ –น่าน ขาล่อง(เลยสามแยกบ้านฝ้ายระหว่างสวนอาหารแสงจันทร์) ได้ทำการประชาสัมพันธ์ทางด้านโซเชียลมีเดียหรือสื่อออนไลน์ โปรโมททาง Facebook ในการโปรโมทว่าจะมีร้านค้ากว่า 1,200 ร้านค้า(บูธ) มีเวทีขนานใหญ่พร้อมศิลปินชื่อดังจากบริษัทค่ายเพลงในเมืองไทย มาแสดง มีร้านอาหาร 4 ภาคกว่า 200 ร้าน พร้อมของฝากจากทุกภาค จะเป็นแหล่งศูนย์แลนด์มาร์ค มีตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ในเนื้อที่กว่าหลายร้อยไร่ โดยล่าสุด ในเพจ ยังมีการโพสว่า “ร้านค้ารายเดือนที่นัดเข้าขาย 31 เตรียมพร้อมนะครับ เราจะค่อยค่อยทยอยเข้าเปิดร้านกันนะครับ”