เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 มิ.ย.67 นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ สั่งการให้ชุดปฏิบัติการฝ่ายปกครองจังหวัดแพร่ ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการฝ่ายปกครองอำเภอเมืองแพร่,กองร้อย อาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองแพร่ ที่ 1,กองบังคับการกองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดแพร่,เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.เมืองแพร่,ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่,สำนักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จ.แพร่ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองแพร่ บูรณาการร่วมกันปราบปรามกวาดล้าวงร้านจำหน่ายบุหรีไฟฟ้าผิดกฎหมายตาทที่ได้รับการร้องเรียนมาทางศูนย์ดำรงค์ธรรม จ.แพร่

โดยชุดปฏิบัติการได้แบ่งชุดทำงานเป็น 2 ชุด เข้าทำการล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง ตรงข้ามทางเข้าห้างมาร์คโฟร์ สามารถตรวจยึด บุหรีไฟฟ้า และอุบกรณ์เสริม และน้ำยา รวมมูลค่าประมาณ 392,400 บาท และร้านค้าในกาดน้ำทอง ม.9 ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ ตรวจยึด บุหรีไฟฟ้า และอุบกรณ์เสริม และน้ำยา รวมมูลค่าประมาณ 539,300 บาท รวมทั้ง 2 ร้าน สามารถตรวจยึด หัวเปลี่ยน 4,173 ชิ้น ตัวเครื่องใช้แล้วทิ้ง 1,128 ชิ้น น้ำยาเติม 598 ชิ้น และ อุปกรณ์เสริม 22 ชิ้น รวมมูลค่าทั้งสิ้น 931,700 บาท จึงยึดของกลางมาแถลงข่าวและดำเนินการตามกฎหมาย

นายชุติเดชมีจันทร์ ผวจ.แพร่ เผยว่า วันนี้ จ.แพร่ ได้ปฏิบัติตามนโนบาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งการผ่านมาทาง นายอนุทิน ชาญวีระกูล รมว.กระทรงมหาดไทย ให้จังหวัดกวาดขันร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่ง สามารถจับกุมได้ 2 ราย ของกลางหลายรายการรวมกว่า 931,700 บาท ถึงแม้จังหวัดแพร่จะเป็นจังหวัดเล็กๆแต่เราก็ดูแลประชาชนโดยเฉพาะลูกหลานที่เป็นเยาวชนจะได้ห่างไกลจากสิ่งเสพติดทั้งหลาย จึงได้เข้มงวนในการจับกุมดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจับกุมดังกล่าวศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มนักเรียนนักศึกษาทั้งหญิงทั้งชายจะจับกลุ่มกันตามที่สถานที่สาธารณะต่างๆและมีพฤติกรรมสูบบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นภาพที่เห็นจนชินตาโดยเฉพาะช่วงเวลาเรียนและหลังเลิกเรียนจะมีกลุ่มนักเรียนเหล่านี้สูบบุหรีไฟฟ้าจับกลุ่มกันเป็นกลุ่ม และมีพฤติกรรมลอกเลียนแบบกันในการสูบบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อจังหวัดแพร่ ได้รับการร้องเรียนมายังศูนย์ดำรงธรรม จึงนำไปสู่การจับกุมดังกล่าว
