………..ตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ แถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างการกวาดล้างการกระทำผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ห้วงวันที่ 20-30 มิ.ย.63 จับกุมผู้กระทำผิดฯ 671 ราย ตรวจค้น/ประชาสัมพันธ์ร้านขาย/ดัดแปลงรถหรืออุปกรณ์ 34 ร้าน ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 41 คัน
……….เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 ตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ แถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างการกวาดล้างการกระทำผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ห้วงวันที่ 20-30 มิ.ย.63 ณ สถานีตำรวจภูธรเมืองแพร่ อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ โดยมี พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว รอง ผบก.ภ.จว.แพร่ เป็นประธานในการแถลงข่าว และมีผู้บังคับบัญชา สภ.ต่างๆ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม หลังการแถลงข่าวได้มีการทำลายท่อไอเสียที่ผิดกฎหมาย ที่ตรวจยึดได้ ต่อหน้าสื่อมวลชน
……….โดย พ.ต.อ.ชูวิทย์ฯ เผยว่า ตามที่รัฐบาลให้ความสำคัญของการแก้ไขปัญหาการแข่งรถ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปข.ตร.) โดยให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติการระดมกวาดล้างการกระทำผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงให้ตำรวจภูธรในสังกัดดำเนินการระดมกวาดล้างการกระทำผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ในห้วงวันที่ 20-30 มิถุนายน 2563 ทั้งนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ ได้ดำเนินการป้องกันและปราบปรามการแข่งขันรถฯ ในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ผลการระดมกวาดล้างการกระทำผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ในห้วงวันที่ 20-30 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ดังนี้ จับกุมผู้กระทำผิดฯ จำนวน 671 ราย ตรวจค้น/ประชาสัมพันธ์ร้านขาย/ดัดแปลงรถหรืออุปกรณ์ จำนวน 34 ร้านตรวจยึดรถจักรยานยนต์ จำนวน 41 คัน
………..ทั้งนี้ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปข.ตร.) ตำรวจภูธรภาค 5 และตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ ได้มีมาตรการและเพื่อควบคุมการปฏิบัติให้เกิดผลการแก้ไขปัญหาการแข่งรถในทางฯ อย่างเป็นรูปธรรม โดยให้ดำเนินการดังนี้
- มาตรการก่อนเกิดเหตุ
สืบสวนหาข่าว จากทุกช่องทาง เช่น ศูนย์ 191 , เฟสบุ๊ค , ไลน์ , กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ,ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานกลางคืน ได้แก่ เด็กปั้ม , ร้านอาหารข้างทาง และให้เอ๊กซ์เรย์พื้นที่อย่างละเอียด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำหน้าที่สืบสวนหาข่าวรวบรวมข้อมูลแหล่งรวมตัวหรือจุดนัดหมาย ร้านขายอะไหล่ สถานศึกษา ที่ทำงาน พร้อมทั้งจัดทำบัญชีกลุ่มเสี่ยงเด็กแว้นของแต่ละหมู่บ้าน ไว้ให้เป็นระบบ และบันทึก ลงในระบบ CRIMES
จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว (ปะ ฉะ ดะ) และตั้งด่านกวดขันผู้ขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่กระทำผิดกฎหมายในทุกข้อหา โดยเฉพาะ ผู้แต่งรถซิ่ง (เปลี่ยนท่อไอเสีย) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมออก ตรวจตรา ตรวจค้น ร้านจำหน่ายอะไหล่ ร้านซ่อมรถ ร้านดัดแปลงสภาพรถ ร้านขายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม โรงงานผลิตท่อไอเสียไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมในพื้นที่ทุกแห่ง รวมถึงร้านค้าออนไลน์
ดำเนินการตามโครงการ “เปิดโรงเรียน เปิดโรงรถ” และให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปทราบถึงการจ่ายเงินรางวัลให้กับผู้แจ้งเบาะแสการแข่งรถในทาง และกำชับเจ้าหน้าที่ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ให้แจ้งประชาชนผู้แจ้งเบาะแสการแข่งรถในทางทราบทุกราย
2. มาตรการขณะเกิดเหตุ
ให้สถานีตำรวจภูธรในสังกัดวางแผนการดำเนินการจับกุม โดยให้บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวในทุกขั้นตอนขณะเกิดเหตุทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้ประกอบสำนวนการสอบสวน และติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีในภายหลัง โดยให้บูรณาการใช้กำลังในการปฏิบัติ ให้ตำรวจทุกฝ่ายบูรณาการสนธิกำลังจากหน่วยสนับสนุน หรือหน่วยใกล้เคียง รวมทั้งจัดเตรียมห้องควบคุม และสถานที่เก็บรถของกลางไว้รองรับการดำเนินการให้เรียบร้อย
เมื่อมีการจับกุมผู้กระทำความผิดแล้วให้จัดทำประวัติ และลงบันทึกในระบบ CRIMES ให้เรียบร้อย และให้ทำการขยายผลการจับกุมทุกราย พร้อมทั้งให้ชักชวนมาเป็นแนวร่วมอาสาสมัครในการแจ้งข้อมูลเบาะแสแก้ไขปัญหาการแข่งรถในทาง กรณีผู้กระทำผิดรายใดที่มีการจับกุมแล้ว ศาลมีคำพิพากษาลงโทษปรับหรือจำคุกในอัตราสูง และให้ริบรถของกลาง ให้ทุกหน่วยนำผลคำพิพากษาดังกล่าวไปทำ การประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยเป็นที่แพร่หลาย เพื่อเป็นการเตือนไม่ให้มีผู้มากระทำผิดอีก
กรณีพบว่ามีการมั่วสุม อันเป็นลักษณะการจัดกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมประชุมกัน หรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้ง่าย ให้พิจารณาดำเนินคดีในความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ด้วย
3. มาตรการขยายผล
ให้สอบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดี ผู้ผลิต ครอบครอง จำหน่าย ประกอบดัดแปลง หรือเปลี่ยนแปลงสภาพรถ หากการกระทำนั้นมีเหตุอันควรเชื่อว่าเป็นการตระเตรียม ยุยง ส่งเสริม สนับสนุน ชักชวน จัดให้มี จัดหา เป็นธุระ หรือมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งนำไปสู่การแข่งรถในทางตามความในข้อ 3. ของคำสั่ง หน.คสช.ที่ 22/2558 ลง 22 ก.ค.58 และขยายผลดำเนินคดีกับผู้สนับสนุนได้แก่ Adminpage ผู้ร่วม แข่งรถหรือขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือกองเชียร์ ในข้อหาจัด สนับสนุน หรือส่งเสริมให้มี การแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต และให้สอบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับร้านค้าออนไลน์ที่ลักลอบจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมด้วย
4. มาตรการเฝ้าระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
กรณีผู้กระทำความผิดเป็นเด็ก หรือเยาวชนให้แจ้งบิดา มารดา หรือผู้ปกครองเข้ามารับทราบ การกระทำของเด็กและเยาวชนดังกล่าวเพื่อให้คำแนะนำตักเตือนทำทัณฑ์บนวางข้อกำหนด หรือให้วางประกันเป็นจำนวนเงินตามสมควรแก่ฐานานุรูป หากเด็กหรือเยาวชนได้กระทำความผิดซ้ำอีกให้พิจารณาดำเนินคดี กับบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง ตามความในข้อ 2. ของคำสั่ง หน.คสช. ที่ 22/2558 ลง 22 ก.ค.2558 ทั้งนี้ให้ประสานการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็กในพื้นที่ด้วย กรณีข้อเท็จจริงปรากฏชัดเจนว่า ผู้ปกครองซื้อยานพาหนะให้บุตรหลาน ซึ่งยังไม่มีใบอนุญาตขับขี่ หรือให้เงินบุตรไปแต่งรถซิ่ง ให้ดำเนินคดีกับผู้ปกครองในข้อหาส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ มาตรา 26(3)
ทั้งนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบทั่วกัน หากมีการพบเห็น การกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สามารถแจ้งเหตุได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 191