เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 3 พ.ค.67 พื้นที่จังหวัดแพร่ เกิดพายุฤดูร้อน มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ บางพื้นที่มีลูกเห็บตก และทำให้เกิดลมและพายุฝนรุนแรง โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ พายุได้สร้างความเสียหายให้กับร้านค้า ไฟดับในย่านเศรษฐกิจหลายพื้นที่ ส่งผลให้ไฟสัญญาณจราจรดับเกือบหมดเมือง ต้นไม้ล้มหลายจุดและเศษใบไม้ดอกไม้เกลื่อนตามถนน
โดยเฉพาะที่หน้า สนง.สรรพสามิต จ.แพร่ เสาไฟฟ้าหัก ต้นไม้ล้มทับรถยนต์ที่จอด 2 ข้างทาง และขับขี่กลางถนน จำนวน 4 คัน ร้านค้าที่เปิดใหม่เมื่อวันที่ 1 พ.ค.67 ที่ผ่านมา เสียหายนายติณคุณ เรือนคำ อายุ 31 ปี เจ้าร้านขนมยายแป บ้านเลขที่ 1 ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ เล่าว่า ระหว่างเกิดเหตุนั่งในร้าน ถ่ายรูปพายุฝนอยู่ แต่แค่ไม่ถึง 30 วินาที ลมพายุโหมพัดรุนแรง ทำเสาไฟฟ้าหักต้นไม้ล้มใส่รถ และร้านดังกล่าวเพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 1 พ.ค.67 ที่ผ่านมาด้วย ไม่เคยเห็นลมแรงแบบนี้มาก่อน
นอกจากนั้นมีความเสียหายหลายจุด อาทิ หน้าเทศบาลเมืองแพร่ กิ่งไม้หักขวางถนน เศษใบไม้ดอกไม้เกลื่อนถนน เจ้าหน้าที่เทศบาลต้องออกมาช่วยกันทำความสะอาด ส่วนที่หน้าศาลจังหวัดแพร่ เสาไฟฟ้าแรงสูง เอียงเกือบล้ม จำนวน 2 ต้น ทำให้รถไม่สามารถสัญจรไปตามถนนได้ ต้องวิ่งเข้าไปในศาล เข้าออกประตูทั้ง 2 ด้านแทน เพราะสายไฟขวางถนน นอกจากนั้น เสาธง หน้า สภ.เมืองแพร่ ที่เป็นเสาแข็งแรง ถึงกับหักโค่นลงมา เดชะบุญ ที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนั้นที่ถนนสายหน้า ร.ร.เมธังกราวาส มีหลังคาร้านค้าถูกลมพัดปลิวมาตกกลางถนนทำให้ เหลือช่องจราจร เลนเดียว ส่วนที่ร้านก๋วยเตี๋ยวพรถนา ในซอยบัวขาว หลังคาโครงเหล็กหักโค่นลงมากลางถนน เจ้าของร้านเผยว่า ตกใจมากเกิดมาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ยังสั่นไม่หายจนตอนนี้ นอกจากนั้นที่ถนนหลังขนส่งผู้โดยสารจังหวัดแพร่ มีร้านค้าถูกพายุพัดหลังคาปลิวหาย หลายร้าน ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้สำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือในลำดับต่อไปต่อไป
ทางด้าน นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้สั่งการให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำเภอต่างๆ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งทำการสำรวจและทำการช่วยเหลือประชาชน ตัดกิ่งไม้ ที่กีดขวางเส้นทางจราจร เพื่อให้สามารถสัญจรไปมาได้เป็นปกติ ขณะเดียวกันทางการไฟฟ้าจะได้เร่งดำเนินการติดตั้งเสาไฟฟ้าเพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชนต่อไป
ส่วนสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ได้รายงานความเสียหายในเบื้องต้นว่ามีพื้นที่ประสบวาตภัยในขณะนี้จำนวน 2 อำเภอ 6 ตำบล 11 หมู่บ้านรวม 73 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต.
