เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 เม.ย.67 ศูนย์วิทยุช่อแฮ อ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุไฟไหม้บ้านที่ใกล้วัดปทุม ต.เหมืองหม้อ อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ หลังรับแจ้งจึงประสานรถดับเพลิง อบต.เหมืองหม้อ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ รวม 15 เข้าควบคุมเพลิง เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวอยู่กลางชุมชน หวั่นจะลุกลามบ้านหลังอื่น ระหว่างนั้น พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตุ้ยบุญมา สารวัตรสอบสวน ทำหน้าที่พนักงานสอบสวนเวร สภ. เมืองแพร่ ได้รับแจ้งเหตุ จึงออกตรวจสอบเหตุตามที่ได้รับแจ้ง
เมื่อไปถึงพบว่า ไฟได้ไหม้บ้านเลขที่ 22 ม.11 ต.เหมืองหม้อ อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ โดยมี นายยงยุทธ แสงสาย เป็นเจ้าของบ้าน โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ ด้านลางของบ้านเป็น ที่เก็บของเช่น มีด พร้า และอุปกรณ์การเกษตร ไฟได้ไหม้ชั้นบนจนหมด และลุกลามมาชั้นล่าง เจ้าหน้าดับเพลิงใช้เวลาดับเพลิงกว่า 1 ชั่วโมง จึงดับสนิทพบว่าบ้านเสียหายทั้งหลัง รวมทรัพย์สินต่างๆ คาดว่าจะนับล้านบาท
จากการสอบถาม นายพรมมา คำแปน นายก อบต.เหมืองหม้อ ทราบว่า ระหว่างเกิด อบต.เหมืองหม้อ กำลังจัดงานสงกรานต์ ต.เหมืองหม้อ ได้รับแจ้งว่ามีไฟไหม้ จึงวงแตกตนเองได้สั่งการให้รถดับเพลิง อบต.ออกมาระงับเหตุ และประสานช่วยเหลือจาก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงมาช่วยกันดับ เบื้องต้นทราบว่า นายยงยุทธฯ เจ้าของบ้าน ไม่อยู่บ้านไปขายของ มีเพียงภรรยา คือ นางสมศรี แสงสาย พร้อมด้วยหลาน 1 คน และ นายจัน แสงสาย อายุ 61 ปี เป็นน้องเจ้าของบ้าน เบื้องต้น นางสมศรีฯ และ หลานออกจากบ้านมาได้ ส่วนนายจันฯ หายไปยังไม่ทราบชะตากรรม
หลังเกิดเหตุ นายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ นายอำเภอเมืองแพร่ รุดมาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมฝ่ายปกครอง ต.เหมืองหม้อ ต่อมาเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่า มีร่างของมนุษย์ ถูกไฟไหม้เหลือแต่ ตอตะโก 1 ร่าง ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร เบื้องต้นคาดว่าจะถูกไฟไหม้บนบ้าน และร่างตกลงมาพื้นชั้นล่าง เพราะสภาพถูกไหม้จนไม่มีสภาพโครงร่างของมนุษย์ พนักงานสอบสวน จึงได้ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดแพร่ เข้ามาตรวจสอบสาเหตุของไฟไหม้ และตรวจสอบว่า ร่างมนุษย์ที่ถูกไฟไหม้เป็น ใคร เบื้องต้นไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นายจันฯ ผู้หายไปเป็นคนสติไม่สมประกอบ วันนี้อยู่บ้านชั้นบนระหว่างไฟไหม้ ไม่มีใครสามารถ ติดต่อได้ จึงเชื่อว่า คนตายน่าจะเป็น นายจันฯ ที่ชอบอยู่บนบ้าน แต่ก็ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์อีกครั้ง นับเป็นโศกนาถกรรมรับปีใหม่เมือง หรือเทศกาลสงกรานต์ของ จ.แพร่ ในปีนี้
