(มีคลิป)พ่อยืนน้ำตาตกมองบ้านตัวเองที่ถูกลูกคลั่งยาบ้าเผาวอดทั้งหลัง

1942
0
- ผู้สนับสนุนแพร่ข่าว -

ต้องทนทุกข์ทรมานมากว่า 10 ปี เพราะลูกติดยาบ้าหนัก ไม่ทำการทำงาน ขอเงินไปซื้อยาบ้าทุกวัน หากไม่ให้จะทำลายข้าวของ ทำลายอุปกรณ์การเกษตร และทำร้ายแม่ ล่าสุดคลั่งยาเผาบ้านวอดทั้งหลัง

เหตุการณ์ลูกชายคลั่งยาบ้าเผาบ้านตัวเองวอด พ่อต้องยืนมองบ้านที่สร้างมากับมือไหม้วอดต่อหน้าต่อตา เกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 15 กันยายน 2566 พ.ต.ท.มานพ มะโนริน สว.(สอบสวน) ทำหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.ร้องกวาง ได้รับแจ้งจาก นายกังสดาล พรมเสน  ผญบ.ม.3 ต.น้ำเลา อ.ร้องกวาง จ.แพร่ เกิดเหตุไฟไหม้บ้านในพื้นที่ขอให้ตรวจสอบด้วย เพราะคาดว่าน่าจะเป็นการวางเพลิง หลังรับแจ้งจึงประสาน นายสิทธิเดช กันหมุด นายก อบต.น้ำเลา เพื่อขอรถดับเพลิงจากอบต.ใกล้เคียง ร่วมดับเพลิง และรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

พบว่าไฟได้ไหม้บ้านของ นายมานิตย์  ขึมจันทร์ อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 24 ม.3 ต.น้ำเลา อ.ร้องกวาง จ.แพร่ โดยมีรถดับเพลิงจาก อบต.น้ำเลา ,เทศบาลตำบลบ้านเวียง, เทศบาลตำบลร้องกวาง เข้าระงับเหตุ สามารถควบคุมเพลิงได้ใช้เวลาประมาณ 40 นาที พบว่าบ้านต้นเพลิงเสียหายทั้งหลัง โดยพบว่า ผู้นำชุมชน ได้ควบคุมตัว นายอิทธิพล  ขึมจันทร์ อายุ 31 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน มีอาการคลุ้มคลั่ง ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นคนก่อเหตุเผาบ้าน เพราะพบตะกร้าเสื้อผ้า ไฟเช็ค 2 อัน จึงควบคุมตัวไปทำการสอบสวน เบื้องต้น เจ้าตัวรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุเผาบ้านเอง โดยใช้น้ำมันราดที่โต๊ะรับแขกก่อนจะลุกลามไหม้บ้านทั้งหลัง

นายกังสดาลฯ ผญบ. เผยว่า สำหรับ ผู้ก่อเหตุ มีพฤติกรรมเสพยาบ้า ไม่ทำการทำงาน และมักจะไปขอเงินพ่อ-แม่ที่ทำงานกลางไร่ข้าวโพด ทุกวัน หากไม่ได้ก็จะทำลายข้าวของ ก่อนหน้านั้น ได้เผารถจักรยานยนต์ 2 คัน ทุบทำลายมิเตอร์น้ำประปา และทุบหม้อมิเตอร์ไฟฟ้าของเพื่อนบ้านเสียหาย ข่มขู่ว่าจะเผาบ้านหลายครั้ง จนกระทั่งวันนี้ มาก่อเหตุดังกล่าว เมื่อตนเองได้รับแจ้งว่าไฟไหม้บ้าน จึงรีบมาดูที่เกิดเหตุ และประสาน นายก อบต.ขอรถดับเพลิง จนมาพบ นายอิทธิพลฯ นั่งหลบในพงหญ้าข้างบ้าน ดูไฟไหม้บ้านตนเองอย่างไม่สะทกสะท้าน พร้อมตะกร้าใส่เสื้อผ้าเตรียมหลบหนีจึงคุมตัวให้ตำรวจ สภ.ร้องกวาง ดังกล่าว

จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงบันทึกที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน นำตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวน เจ้าตัวรับสารภาพ เมื่อนำผลปัสสาวะไปตรวจพบว่ามีผลเป็นบวก  จึงได้ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน มาตรวจสอบโดยละเอียด และดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป

ทางด้าน นายมานิตย์  ขึมจันทร์ อายุ 61 ปีผู้เป็นพ่อ เผยกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองและ นางอำนวย ขึมจันทร์ อายุ 61 ปี ภรรยา ต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องนี้มา กว่า 10 ปี ตนเองมีลูกชาย 2 คน คนโต มีครอบครัวแล้ว และทำงานที่ต่างจังหวัด ส่วน นายอิทธิพลฯ คนเล็กติดยาบ้าหนัก ไม่ทำการทำงาน ขอเงินไปซื้อยาบ้าทุกวัน หากไม่ให้จะทำลายข้าวของ ทำลายอุปกรณ์การเกษตร จนพ่อและแม่ อยู่บ้านไม่ได้ ต้องย้ายไปอยู่ที่สวนข้าวโพด ทุกวันนี้ นายอิทธิพลฯ จะอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว พอตื่นเช้ามา ไปหากินข้าวที่สวน แล้วขอเงินมาเสพยาบ้าหาไม่ได้ก็ทำร้ายแม่ ทำลายข้าวของ ล่าสุดคลั่งยาเผาบ้านวอดทั้งหลังดังกล่าว

ตนเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเป็นลูก ที่เราทำให้เกิดขึ้นมา อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการขั้นเด็ดขาดไปเลย เอาไปไหนก็ได้ เอาไปรักษา บำบัด ติดคุกติดตารางก็ดี เพราะตอนนี้ สุดจะเสียใจ บ้านที่สร้างมาหมดเงิน 6 แสนกว่าบาท หาเงินสร้างมาทั้งชีวิต มาถูกลูกชายที่เลี้ยง เผาวอดต่อหน้าต่อตา ตนเสียใจ จุกอก ลูกก็รักแต่เมื่อมันไม่ดีก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ เพราะตนเองทุกข์กับเรื่องนี้มานานแล้ว จึงให้ดำเนินคดีกับลูกชายในครั้งนี้ให้ถึงที่สุด.

ต่อมา นายสมเกียรติ อาจสังข์ นายอำเภอร้องกวาง พร้อมนายกกิ่งกาชาด อำเภอร้องกวาง ได้เดินทางมาตรวจบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเบื้องต้น ก่อนนำเรื่องรายงานให้กับกาชาดจังหวัดแพร่ หาลู่ทางช่วยเหลือต่อไป ส่วนนายสิทธิเดช กันหมุด นายกอบต.น้ำเลา ได้ตั้งเต้นท์ทำเป็นกองอำนวยการ เพื่อช่วยเหลือตามระเบียบทางราชการ และจะได้ประสาน ฝ่ายปกครองในพื้นที่หาทางช่วยเหลือระยะยาวต่อไป