เมื่อวันที่ 28 มี.ค.66 เวลา 10.30 น. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต ส.ส.พะเยา ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางมาพบปะแกนนำในจังหวัดแพร่ 3 เขต โดย จุดแรก ณ ห้องประชุมสมาคมพัฒนาสตรี อ.ร้องกวาง พบแกนนำพรรคพลังประชารัฐ เขต 2 อ.ร้องกวาง มีนายสุรสิทธิ์ เพชรปิตุพงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พปชร.เขต 2 และ น.ส.ปรวัลย์ มุดเจริญ ว่าที่ผู้สมัคร พปชร.เขต 3 นำพบกับชาว จ.แพร่กว่า 300 คน
จากนั้นเวลา 12.30. น พิธีเปิดป้ายสำนักงาน พรรคพลังประชารัฐเขต 1 อ.เมืองแพร่ มี น้องนก น.ส.อาทิตยา อินนะไชย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พปชร.เขต 1 นำแกนนำ ผู้สนับสนุน เขต 1 มาร่วมต้อนรับ พร้อมกันนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ถือโอกาส ชูมือว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พปชร.จ.แพร่ ทั้ง 3 เขต พร้อมลุยเลือกตั้ง โดย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ พรรคพลังประชารัฐ ปราศรัยและพบปะกับแกนนำท่ามกลางเสียงปรบมือดังเป็นระยะๆ ชอบนโยบายพรรค พปชร.
ในการพบประชาชนผู้สนับสนุน พปชร.จ.แพร่ ร.อ.ธรรมนัส พรมเผ่า กล่าวในตอนหนึ่งว่า พรรคพลังประชารัฐ มองว่าการสร้างความเข้มแข็งให้กับคนฐานรากให้อยู่ดีกินดี เป็นสิ่งสำคัญที่สุด พรรคต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเปราะบาง และช่วยเหลือประชาชนทุกพื้นที่ให้เกิดความเสมอภาค เมื่อพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ พล.อ.ประวิตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 จะดำเนินโครงการต่างๆ อาทิเช่น
นโยบายปากท้องของประชาชน สานต่อ “บัตรประชารัฐ” เพิ่มเงินเป็น 700 บาท มอบให้กับผู้มีรายได้น้อย (ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี) ที่จะเพิ่มจาก 300 บาท เป็น 700 บาททันที
มอบสวัสดิการผู้สูงอายุ เกิน 80 ปี รับ 5,000 บาท โดยจะดูแลผู้สูงตามแบบขั้นบันได ที่ทุกวันนี้ ผู้สูงอายุได้รับสวัสดิการอยู่ที่ 600 – 1,000 บาท แต่หลังการเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ พร้อมจะดูแลผู้สูง โดยผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป รับไปเลย 3,000 บาท 70 ปี รับ 4,000 บาท และ 80 ปีขึ้นไป รับ 5,000 บาท
ส่วนนโยบายพลังงาน ชูนโยบาย “น้ำมันประชาชน” เรื่องราคาน้ำมัน ที่พรรคพลังประชารัฐ มีแนวคิดจะปรับโครงสร้างลดราคาน้ำมัน เพื่อชูเป็นนโยบายที่ชื่อว่า “น้ำมันประชาชน” เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และลดค่าครองชีพให้ประชาชน ซึ่งมีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เสนอนโยบายนี้ หากสามารถปรับโครงสร้างราคาน้ำมันใหม่ได้ จะลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน และ ดีเซล ลงมาให้เหลือ 25-28 บาท ต่อลิตร
นโยบายสิ่งแวดล้อม นโยบายบริหารจัดการน้ำ-ที่ดินทำกิน ของพรรคพลังประชารัฐที่ออกมาแล้ว เป็นการเอาใจเกษตรกร ด้วยนโยบาย“มีเรามีที่ทำกิน มีที่ดินไม่มีจน” โดยจะเปลี่ยนที่จับจองทำกิน เป็น สปก. ในที่นี้คือ สปก.4.0 สามารถเป็นมรดกตกทอดให้ลูกหลานได้ และสามารถนำไปกู้เป็นเงิน มาลงทุนทำการเกษตรได้ นอกจากนั้นจะเปลี่ยนที่ สปก. เป็นโฉนดที่ดิน ให้ทุกบ้านมีโฉนด และนโยบาย “มีเราไม่มีแล้ง มีน้ำไม่มีจน” โดยนโยบายการบริหารจัดการน้ำ มีทั้งเพิ่มแหล่งน้ำต้นทุน การกักเก็บน้ำ เพิ่มแหล่งน้ำสำรอง และแหล่งน้ำทางเลือกเพราะน้ำคือชีวิต.
