ทม.แพร่ ร่วมสร้างบุญสร้างกุศล “ตักบาตรบนเมก” ทุกวันพุธ

79
0
- ผู้สนับสนุนแพร่ข่าว -

งานประชาสัมพันธ์เทศบาลเมืองแพร่ แจ้งว่าเมื่อวันพุธที่ 25 มกราคม 2566 เวลา 07.00 น. นายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลเมืองแพร่ หัวหน้าส่วนราชการ พนักงานเทศบาล สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองแพร่ ผู้บริหารสถานศึกษาและคณะครูโรงเรียนเทศบาลวัดเหมืองแดง คณะครูโรงเรียนวัดเมธังกราวาส ประชาชนจากชุมชนเหมืองแดง ชุมชนเหมืองหิตพัฒนา ชุมชนชัยมงคล ชุมชนเพชรรัตน์ สโมสรไลออนส์แพร่ สโมสรโรตารี สโมสรโรตารีเวียงโกศัย สโมสรฟุตบอลแพร่ยูไนเต็ด ชมรมร้านอาหารแผงลอย ชมรมช่างเสริมสวยจังหวัดแพร่ ชมรมช่างเสริมสวยเทศบาลเมืองแพร่และพี่น้องประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตรบนเมก ณ บริเวณประตูชัยกำเเพงเมืองแพร่ (เมก)

จากนั้นได้รับฟังคติธรรมจากคณะพระสงฆ์วัดเมธังกาวาส (น้ำคือ) ความว่า บางท่านเคยสงสัยในการกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ถ้าไม่มีน้ำกรวดจะอุทิศได้ไหม อาตมาก็เลยไปค้นพระไตรปิฎก ชื่อว่าติโรกัณฑสูตร ถ้าแปลเป็นภาษาไทยก็หมายถึงว่าเปรตเกาะหน้าต่าง ในตอนหนึ่งสมัยพระพุทธองค์บรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใหม่ๆ ท่านก็เสด็จกลับไปบ้านเกิดเมืองนอนแล้วท่านก็ไปเจอกับพระเจ้าพิมพิสารซึ่งทรงศรัทธาในพระพุทธเจ้ามาก กระทั่งเคยถวายป่าไผ่เป็นวัดของพระพุทธเจ้ามีนามว่าวัดเวฬุวนาราม วัดที่มีป่าไผ่เป็นใหญ่ แล้วพระเจ้าพิมพิสารก็นิมนต์พระพุทธเจ้าพร้อมพระสงฆ์สาวกมาฉันภัตตาหาร แล้วก็ดีใจมากที่ได้สนทนาธรรมจนลืมกรวดน้ำ ลืมอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล

คืนนั้นพอตกดึกเที่ยงคืนปรากฏว่าท่านได้ยินเสียงร้องโหยหวนทั่วพระราชวังของท่าน เกิดเหตุทำให้นอนไม่หลับ ท่านทนจนถึงตอนเช้าแล้วรีบเสด็จไปหาพระพุทธเจ้าที่วัดเวฬุวรารามว่าเหตุใดจึงมีเสียงร้องโหยหวน พระพุธองค์ก็ยิ้มแล้วก็บอกกับพระเจ้าพิมพิสารว่าเสียงที่ท่านได้ยินนั้นเป็นเสียงพระญาติของพระองค์ที่ได้กระทำกรรมหนักจนเกิดมาเป็นเปรต ทีนี้เมื่อได้ทำบุญใหญ่เมื่อวานเป็นการถวายวัดถวายป่าไผ่สร้างเป็นวัดเวฬุวนารามขึ้น แต่ลืมอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ญาติเหล่านั้นอยากจะอนุโมทนาเพราะเกิดมาเป็นเปรตหลายร้อยชาติ พระเจ้าพิมพิสารก็ไม่รู้จะทำยังไงก็เลยนิมนต์พระพุทธเจ้ามาฉันภัตตาหารเพลใหม่ จากนั้นก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลโดยการกรวดน้ำ อุทิศแปลว่าเจาะจง โยมทั้งหลายจะอุทิศให้ใครก็เจาะจงไปเลย พระพุทธเจ้าก็เลยพูดขึ้นมาว่า “อิทังเม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย” เวลาเราไปปฏิบัติธรรมก็จะเจอคำนี้ นี่แหละคือที่มาคุณโยม ทีนี้พระเจ้าพิมพิสารเมื่อกรวดน้ำเสร็จก็กลับพระราชวังไป คืนนั้นฝันเห็นว่าญาติของท่านนั้นจะเกิดมาเป็นเปรตมีผิวพรรณสดใสงดงาม และเห็นว่าญาติของพระองค์ไม่ได้ใส่อะไรเลย เปลือยกายล่อนจ้อน

 ทีนี้รุ่งเช้าก็กลับไปหาพระพุทธเจ้าก็ไปถามว่าความฝันเมื่อคืนหมายถึงอะไร พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่าเจ้าทำบุญใหญ่ก็จริง เปรตเหล่านั้นกลายเป็นเทวดาก็จริง แต่มหาบพิตรลืมอุทิศผ้าไตรจีวรให้กับพระภิกษุสงฆ์ พระเจ้าพิมพิสารก็เลยอุทิศผ้าไตรจีวรให้กับพระภิกษุสงฆ์ คืนนั้นก็ฝันอีกว่าญาติของท่านแต่งตัวสวยสดงดงามมาร่ำลาพระองค์ ตั้งแต่นั้นมาพระเจ้าพิมพิสารก็ไมเคยเจอญาติของพระองค์อีกเลย นี่คือที่มาของการกรวดน้ำ การกรวดน้ำก็คือการถวายสิ่งของที่มันยกให้ไม่ได้ สิ่งของที่มันใหญ่ๆ อย่างเช่น อสังหาริมทรัพย์ พื้นที่ ที่นา เป็นต้น เราก็กรวดน้ำพูดเป็นสัญลักษณ์ แต่เวลาอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนั้น เราพนมมือแล้วอุทิศเจาะจงลงไปว่าเราจะตั้งใจให้กับญาติ ให้ใคร หรือญาติผู้ล่วงลับดับขันธ์ไป ก็สำเร็จประโยชน์เช่นเดียวกัน นี่ก็คือความหมายของคำว่ากรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนั่นเอง