นพ.นิยม วิวรรธนดิฐกุล ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ จ.แพร่ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตามที่สมาคมครูแพร่ได้เข้าพบและยื่นข้อเรียกร้องเกี่ยวกับข้อเสนอแนะและคัดค้าน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ….. ซึ่งตนเองได้รับฟังและศึกษาแล้วทำให้องค์กรวิชาชีพครูไม่ก้าวหน้าตามที่องค์กรครูวิตกและวันที่ 10-11 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา มีการนำเข้าสู่สภาองค์การครูได้มีการแต่งดำทั่วประเทศนั้นและองค์กรครูได้มายื่นหนังสือคัดค้านอีกครั้งตนเองสนับสนุนองค์กรครูเต็มที่และเชื่อแน่ว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้คงไม่ทันในรัฐบาลนี้แน่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตามที่ครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศลุกฮือแต่งชุดดำ คัดค้านร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติจากการที่รัฐบาลได้นำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ชุดที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว เข้าสู่วาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ระหว่างวันที่ 10-11 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา
สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทยและองค์กรเครือข่ายสี่ภูมิภาคประกอบด้วยสหพันธ์ครูภาคเหนือ16จังหวัด สมาพันธ์ครูภาคใต้14จังหวัด ชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ20จังหวัดชมรมครูภาคกลาง27จังหวัดได้ส่งตัวแทนกว่าร้อยคนเข้าร่วมกันจัดกิจกรรมสัปดาห์วันครูและคัดค้านร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติดังกล่าวที่อาคารรัฐสภา กทม.
ขณะที่ครูและบุคลากรทางการศึกษาส่วนใหญ่ยังปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการเรียนการสอนตามปกติได้พร้อมใจกันแต่งชุดดำเพื่อไว้อาลัยและแสดงสัญลักษณ์การคัดค้าน ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ดังกล่าว
ซึ่งคณะผู้นำสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย กล่าวว่าครูทั่วประเทศ มีข้อห่วงใย มีความกังวลว่าร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับดังกล่าวมีเนื้อหาบางส่วนที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาผู้เรียน การศึกษาและวิชาชีพ อีกทั้งบางประเด็นอาจส่งผลกระทบความเป็นอิสระทางวิชาการ ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปิดกั้น กดทับศักยภาพของผู้เรียน ในการพัฒนาตนเองสู่อนาคตในศตวรรษที่ 21 ได้นำเสนอข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ในการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขสาระบัญญัติในมาตราต่างๆต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการดำเนินการแต่อย่างใด คณะกรรมาธิการวิสามัญเสียงข้างมาก กลับรีบเร่ง รวบรัดนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภาในวาระที่2-3 ในขณะนี้
ทั้งนี้ การรวมพลังแต่งชุดดำของครูบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศในครั้งนี้ เป็นการแสดงออกอย่างสงบ อหิงสา ตามสิทธิ เสรีภาพที่พึงกระทำได้ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นการส่งพลังใจของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งสี่ภูมิภาคทั่วประเทศ กว่า 200,000 คน ไปยังผู้มีอำนาจและสมาชิกรัฐสภาว่า พวกท่านกำลังเร่งรีบตรากฎหมายที่สำคัญ ในการที่จะใช้เป็นแม่บทในการจัดการศึกษาของชาติ ทั้งๆที่ครูทั้งแผ่นดินไม่เห็นด้วย.
