ทำทีจอดรอเพื่อนแถวศาลาข้างถนน ยายกำลังจะเดินเข้าบ้าน หลอกล่อว่าจะไปส่ง ชวนคุยเมื่อสบโอกาส มือล้วงเอากระเป๋าเงิน ขี่รถจยย.ที่จอดแบบไม่ดับเครื่องไปดื้อๆ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ธ.ค.65 นายสุนทร ชูวงศ์วรพินิจ ผญบ.หมู่ที่ 9 ต.เหมืองหม้อ อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ร่วมกับ ร.ต.ต. รุ่งศักดิ์ แสนขัน ตำรวจสายตรวจ ต.เหมืองหม้อ ได้รับแจ้งมีเหตุวิ่งราวทรัพย์ ที่ถนนชลประทานระหว่าง ม.3 กับ ม.9 ต.เหมืองหม้อ อ.เมืองแพร่ จึงไปตรวจสอบ พบผู้เสียหายเป็นหญิงสูงอายุ พิการใช้ไม้เท้าประคองเดิน ทราบชื่อภายหลังคือ นางพัชนีย์ (ป้าต๋อย) อารินทร์ 73 ปี บ้านเลขที่ 225 ม.9 บ้านแดนชล ต.เหมืองหม้อ อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ นั่งอยู่เพิงร้านขายของข้างถนนด้วยท่าทางตกใจ
ป้าต๋อยฯ เล่าถึงเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ตนเองจะนำเงินไปจ่ายค่าสมาชิกศพประจำหมู่บ้าน ที่บ้าน ม.3 แต่ไม่เจอคนเก็บเงินจึงเดินกลับ แวะศาลาข้างทาง เจอชายวัยกลางคน ลักษณะผอม ผมสั้น สวมแว่นสายตา จอดรถแบบไม่ปิดเครื่องยนต์ เป็น รถ จยย.ฮ้อนด้ารุ่นเก่าสีฟ้า จำทะเบียนได้ว่าเลข 446 แต่จำหมวดอักษรไม่ได้ จึงชวนพูดคุยกันประมาณ 10 นาที และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โดยชายคนดังกล่าวบอกว่ามารอเพื่อน มาจากบ้านแม่คำมี อายุ 51 ปี
จากนั้นคนร้ายก็ถามว่าไปไหนมาตนก็บอกว่า จะไปจ่ายเงินค่าสมาชิกหมู่บ้าน แต่ไม่เจอคนเก็บเงิน เลยจะกลับบ้าน แล้วชายคนดังกล่าวบอกว่าจะไปส่ง แต่ตนเองบอกว่า ไม่เป็นไร บ้านอยู่ใกล้นี่เอง จากนั้นคนร้ายเหลือบเห็นกระเป๋าใส่สตางค์ สีน้ำตาลในกระเป๋าเสื้อกั๊กที่ใส่ทับเสื้อคอกลมสีเทา กระเป๋ามีเงินสด ประมาณ 500 บาทและเอกสารส่วนตัว ซึ่งเป็นเงินเบี้ยคนพิการที่เหลือไว้ใช้ ได้ดึงเอากระเป๋าใส่เงินไป โดยขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางบ้านกวาว ต.กาญจนา
ขณะเกิดเหตุมีชาวบ้านซึ่งเป็นตำรวจบ้าน ม.3 ขับรถผ่านมาจึงตะโกนขอความช่วยเหลือก่อนได้ขับรถติดตามรถคนร้าย พร้อมตำรวจจราจร ที่อยู่ สภ.เมืองแพร่ คนในพื้นที่ ที่กำลังจะไปเข้าเวร จึงช่วยขับรถตามคนร้าย แต่ไม่พบ จากนั้นจึงแจ้งตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองแพร่ ออกตรวจสอบเหตุ ก่อนประสานดูภาพวงจรปิดของบ้าน ม.3 ที่อาจมีภาพคนร้าย เพื่อเป็นแบะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
