ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2565 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ …) พ.ศ. … หรือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ในวาระ 2 และวาระ 3 เสนอโดย นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. เขต 22 พรรคก้าวพรรคก้าวไกล ผลปรากฏว่าสภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่รับร่างกฎหมายพ.ร.บ.สุราก้าวหน้าด้วยคะแนน 196 ต่อ 194 เสียง มีผู้งดออกเสียง จำนวน 15 คน เฉือนกันเพียง 2 คะแนนเท่านั้น ซึ่งการลงมติครั้งนี้ส.ส.จากจังหวัดแพร่ทั้ง 4 คน ร่วมประชุมพิจารณาและลงมติดังนี้
นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ : งดออกเสียง
นพ.นิยม วิวรรธนดิษฐกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ : เห็นด้วย
นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่เขต 1 ภูมิใจไทย : ไม่เห็นด้วย
นายกฤติเดช สันติวชิระกุล ส.ส.แพร่เขต 2 ภูมิใจไทย : ไม่เห็นด้วย
คิดเป็น 3 ใน 4 ของจำนวน ส.ส.จากจังหวัดแพร่ ที่มีส่วนร่วมกันคว่ำร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ไม่สนับสนุนการปลดล็อกเหล้าเบียร์จากอำนาจรัฐและทุนผูกขาด แม้ว่าจังหวัดแพร่จะมีชื่อเสียงเรื่องการผลิตสุรากลั่นชุมชนติดอันดับต้นต้นของประเทศก็ตาม เหล้าแพร่ เป็นที่ยอมรับด้านรสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยังพบว่ามีตัวเลขทางเศรษฐกิจหมุนเวียนมูลค่าสูงจากการเสียภาษีสรรพสามิตและรายได้จากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อยไม่ต่ำกว่าปีละ 400 – 500 ล้านบาท ภาคประชาชนหลายฝ่ายจึงมองเห็นโอกาสหากมีการปลดล็อกเงื่อนไขตามสาระสำคัญของกฎหมายสุราก้าวหน้า เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตคนตัวเล็กตัวน้อยได้ลืมตาอ้าปาก สร้างสรรค์และพัฒนาเหล้าเบียร์ท้องถิ่นที่มีความหลากหลาย กระตุ้นการสร้างงาน สร้างรายได้ภายในประเทศมหาศาล
อย่างไรก็ตามการลงมติวาระ 2 ในครั้งนี้ของ ส.ส.แพร่ทั้ง 4 คน พบว่ามี ส.ส. 2 คน ลงมติต่างจากการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าวาระ 1 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดย นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่เขต 1 กลับลำ “ไม่เห็นด้วย” ส่วน นพ.นิยม วิวรรธนดิษฐกุล หรือ หมออุ๋ย ลงมติ “เห็นด้วย” ซึ่งผลการลงมติร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า วาระ 2 ที่ถูกสภาคว่ำไปเพียง 2 คะแนน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากผลลงมติ ในโซเชียล จ.แพร่ ต่างร้อนระอุ เพราะมีการส่งต่อ ผลการลงมติของ 4 ส.ส.แพร่ ตามไลน์ และเฟซบุ๊ก ไปทั่ว มีเสียงวิภาษวิจารณ์ ต่างๆ นานา และมีชาวแพร่ ส่วนมากต่างชื่นชม หมออุ๋ย ที่ลงมติ เห็นด้วย เป็นการพิสูจน์ว่า หมออุ๋ย ได้เห็นความสำคัญของชาวแพร่ และ สุราพื้นบ้าน จ.แพร่ เพราะหลังจากที่ลงพื้นที่พบชาวบ้าน จึงได้ข้อมูลต่างๆ มากมายจากชาวบ้าน จึงได้ลงมติเห็นด้วย จนเป็นที่ชื่นชมในการลงมติเพื่อผลประโยชน์ของชาวแพร่.
