เมื่อเวลา 05.00 น. เช้ามืดวันที่ 3 ก.ย.65 ร.ต.อ.อัศดง คำแปงคำ รองสารวัตรสอบสวน ทำหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.สูงเม่น ได้รับแจ้งจาก นายวิสุทธิ์ เสนากุล อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 14/1 บ.ปงพร้าว ม.6 ต.ร่องกาศ อ.สูงเม่น จ.แพร่ เจ้าของสระเลี้ยงปลาว่ามีขโมยไปลักจับปลาในสระที่ตนเองเลี้ยงไว้ ตอนนี้ได้ควบคุมตัวหัวขโมยไว้ได้ เหตุเกิดที่สระเลี้ยงปลา ซอยหลังวัดปงพร้าว ขอให้ตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งจึงร่วมกับสายตรวจ ต.ร่องกาศ รุดไปที่เกิดเหตุ

พบว่าเจ้าของสระร่วมกับพี่ชายที่เป็นอดีตตำรวจควบคุมตัว นายอาทร แก้วทุม อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 122 ม.5 ต.บ้านปง อ.สูงเม่น จ.แพร่ ได้พร้อมกับข่ายดักปลาที่มีปลาติดในข่ายหลายตัว พร้อมกับ ถังน้ำ 2 ใบ ที่มัดติดกันเป็นทุ่นให้ลอยตัวในสระ เพื่อจับปลาได้ โดย นายอาทรฯ ได้จอดรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีแสด-เทา ทะเบียน กยข 670 แพร่ ได้จอดไว้ถนนเหมืองซอยใกล้สระปลาก่อนเดินลัดทุ่งนาไปหลักทรัพย์

จากการสอบสวน นายวิสุทธิ์ฯ ทราบว่า สระของตนเองถูกคนร้ายแอบเข้ามาขโมยปลาครั้งแรก เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว จึงคาดว่า คนร้ายจะต้องมาอีก หลังจากนั้นจึงเฝ้าระวังมาตลอด กระทั่ง เมื่อคืนได้ออกมาดูสระ ตอนตี 3 แต่ไม่พบตัว พบเพียงอุปกรณ์ที่หาปลา จึงร่วมกับ ร.ต.ท.ปรีดา เสนากูล อายุ 66 ปี อดีตตำรวจ ซึ่งเป็นพี่ชายมาเฝ้าจับคนร้าย เพราะเชื่อว่าจะต้องกลับมาเอาปลา จนกระทั่ง ตี 5 คนร้ายได้ย่องเข้ามา รอจนกระทั่งลงสระ ลอยคออยู่กลางน้ำ ตนจึงออกมาจากที่ซ่อนบอกให้ขึ้นจากน้ำ ก่อนจะแจ้งตำรวจทราบ

สำหรับคนร้ายรายนี้ ตนเองพอจะรู้แล้วว่า เป็นคนมาลักปลามาแล้ว 1 รอบ ครั้งก่อน จึงได้ไปเตือนถึงบ้าน ว่าอย่าทำนะ เพราะเป็นปลามีเจ้าของ เป็นปลาเลี้ยง ไม่ใช่คลองชลประทาน หรือ สระธรรมชาติ แต่เจ้าตัวก็ไม่ฟัง กลับมาก่อเหตุอีกครั้ง ครั้งนี้ที่รอให้ลงน้ำในสระเสียก่อน ก็เพราะว่า หากคนร้ายยังอยู่บนบกเกรงว่า จะวิ่งหนี จึงปล่อยให้ลอยคอในสระก่อนจึงร่วมกันกับพี่ชายบอกให้ขึ้นมา แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุม นายวิสุทธิ์ฯ กล่าวปิดท้าย

จากนั้นพนักงาสอบสวน สภ.สูงเม่น จึงได้บันทึกที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ระหว่างนั้นมีชาวบ้านคนแก่ คนเฒ่า ที่มาทำบุญวันพระที่วัด ทราบข่าวพากันมาดู ต่างพากันพูดสั่งสอนคนขโมยเพราะคุ้นเคยเป็นคนส่งน้ำดื่มประจำในหมู่บ้าน และยังเช่าห้องพักในหมู่บ้านอีกด้วย ซึ่งเขาก็เตือนแล้วแต่ยังไม่ฟัง ยังย่องเงียบมาขโมยปลาในสระวันพระจนถูกจับตัวได้ดังกล่าว.
