เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวแพร่ข่าวออนไลน์ ลงพื้นที่ บ้าน นายประยูร ชมภูวัง 63 ปี เลขที่ 178 บ้านปง ม.6 ต.แม่คำมี อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ หลังจากได้รับการร้องเรียนว่า ตลิ่งหลังบ้านซึ่งติดกับน้ำแม่คำมี บริเวณฝายน้ำล้นคอนกรีตเสริมเหล็ก ฝายแม่คำมี เขตติดต่อ ระหว่าง ม.1 แม่คำมี อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ และ ม.6 บ้านปง ต.แม่คำมี อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ถูกน้ำที่มีปริมาณมากล้นฝาย กัดเซาะตลิ่งหลังบ้านพังเสียหาย จนที่ดินหลังบ้านหายไปเกือบ 1 ไร่ จึงประสานแพร่ข่าวออนไลน์ เข้ามาดูและขอให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย
จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าที่หลังบ้าน ติดฝายน้ำล้น น้ำแม่คำมี ที่ดินถูกน้ำซัดเซาะจนดินถล่มลงในน้ำแม่คำมี เกือบ 1 ไร่ โดยยังมีร่องรอยการ กัดเซาะอยู่ต่อเนื่อง พบว่าสาเหตุมาจาก การสร้างฝายน้ำล้น ฝั่ง อ.หนองม่วงไข่ มีการทำพนังปูน แต่ฝั่ง อ.เมืองแพร่ ซึ่งเป็นที่ดินหลังบ้าน เป็นดินเดิมของตลิ่ง เมื่อน้ำมาล้นฝาย เกิดการกัดเซาะ จนทำให้ดินถล่ม หายลงน้ำไป จนตอนนี้ เหลือระยะทางไม่ถึง 5 เมตร จะถึงตัวบ้าน โดยดินเริ่มถล่มเมื่อประมาณ 10 วันที่ผ่านมา หลังจากฝนตกหนักในพื้นที่ จนมาถึงวันนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข
น.ส.สุพัตรา ชมภูวัง อายุ 39 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้าน เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่ที่ฝนตกหนักเมื่อประมาณ 10 วันที่ แล้ว กระแสน้ำในห้วยแม่คำมีสูงขึ้นเรื่อยๆ จนล้นฝาย ทำให้กัดเซาะที่ดินของบ้านตนเอง จนหายไปเกือบ 1 ไร่ ต้นไม้ที่ปลูก เช่น ต้นงิ้ว 9 ต้น ต้นไผ่หลายกอ ต้นมะยงชิด อีกกว่า 20 ต้น ที่ปลูกในพื้นที่ถูกดินพัดถล่มหลายไปหมด จนตอนนี้น้ำเซาะใกล้จะถึงบ้านแล้ว ผู้ใหญ่บ้านมาทุกวันติดต่อหน่วยงานต่างๆให้ แต่หน่วยงานต่างๆ มาดู เทศบาล ปลัดอำเภอ มาดู ก็ไม่ทำอะไร ผ่านมาวันนี้ 9-10 วันแล้ว มันเซาะจะเข้าถึงบ้านแล้ว และหากว่าใน 1-2 วันนี้ มีฝนตกลงมาอีก จึงกลัวว่ามันจะเซาะจนถึงบ้าน นอนไม่หลับทุกวัน ทุกคืน ทุกข์มาก จึงได้แจ้งผู้สื่อข่าวประสาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือดังกล่าว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ประสาน นายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายก อบจ.แพร่ ได้ลงพื้นที่ทันทีที่ทราบข่าวร่วมกับ นายยุทธพันธุ์ บรรลือ ส.อบจ.แพร่ อ.เมืองแพร่ เขต 4 พร้อมกับทีมงานกองช่าง อบจ.แพร่ ปลัด อบต.แม่คำมี อ.หนองม่วงไข่ มาร่วมดูพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือ โดยเบื้องต้น อบจ.แพร่ จะนำเครื่องกลหนักมาช่วยเหลือ และจะได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่รับผิดชอบพื้นที่ ซื้อวัสดุที่เป็น ไม้ยูคา และกระสอบทราย เพื่อจะกั้นจุดที่น้ำล้มฝาย ไม่ให้มีความรุนแรงเพิ่ม โดยจะปิดจุดที่เป็นกระแสน้ำรุนแรง ไม่ให้พุ่งเข้าหาตลิ่ง และระยะยาวได้ประสานงบประมาณทำพนังคอนกรีตป้องกันตลิ่งพัง ต่อไป.
