หลังจากเลิกงานนั่งกินเหล้ากัน 2 คน หมดไป 2 ขวด กำลังจะต่ออีกขวด จู่ๆ ลูกน้อง เดินเข้าไปในครัว หยิบมีดปอกผลไม้แทงอก เพื่อนร่วมวงเหล้า ก่อนเตะซ้ำ อย่างไม่รู้สาเหตุ
เมื่อเวลา 20.20 น. วันที่ 15 ส.ค.65 ศูนย์วิทยุ 19 ภ.จว.แพร่ รับแจ้งเหตุ คนแทงกันได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่ห้องเช่าติดถนนสายช่อแฮ ม.1 ต.ช่อแฮ อ.เมืองแพร่ ขอให้ตรวจสอบด้วย จากนั้นได้ประสาน ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ ถิ่นศิรภควัตต์ รองสารวัตรสอบสวน ทำหน้าที่พนักงานสอบสวนเวร สภ.พระธาตุช่อแฮ ร.ต.อ.พงศพล แพร่พุทธิพันธุ์ ร้อยเวร 20 พร้อมสายตรวจรถยนต์ รถ จยย. และหน่วยกู้ภัยการเวก เทศบาลตำบลช่อแฮ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตามที่ได้รับแจ้ง
ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นห้องเช่า เลขที่ 152/3 ม.1 ต.ช่อแฮ อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ตั้งอยู่ข้างถนนเลนขาเข้าเมืองแพร่ พบร่าง นายเอกพล ชิวภักดี อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 176 ม.6 ต.ซับใหญ่ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นผู้รับเหมางานทำฝ้า เพดาน สภาพสวมเสื้อสีแดง กางเกงบ๊อกเซอร์ สีลาย ถูกแทงเข้าที่หน้า อาการสาหัส ท่ามกลางความตกใจของเพื่อนร่วมงาน เจ้าหน้าที่กู้ภัยการเวกจึงได้ทำการปั้มหัวใจ ช่วยเหลือเบื้องต้น ก่อนจะประสานรถกู้ชีพ รพ.แพร่ เปลี่ยนถ่ายไปรักษาตัวที่ รพ.แพร่ เนื่องจากอาการสาหัส และเสียเลือดมาก
เบื้องต้นทรายคนก่อเหตุ คือ นายอนันต์ ไกรยศ อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 19/1 ม.6 ต.ซับใหญ่ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นลูกน้องของผู้บาดเจ็บ เดินอยู่หน้าห้อง เจ้าหน้าที่สายตรวจจึงควบคุมตัวไปที่ สภ.พระธาตุช่อแฮ ก่อนจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ ก่อนจะประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.แพร่ ตรวจที่เกิดเหตุ พบมีบอกผลไม้ ด้ามสีเหลือง ยาวประมาณ 20 เซ็นติเมตร ตกอยู่สภาพ ตัวมีดหลุดออกจากด้าม ด้านมีดหักงอ จึงบันทึกที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน
จากกการสอบถาม นายอ๊อด ทองปาน อายุ 33 ปี ชาว ต.ส้มป่อย อ.ราษีไศล จ.ศรีษะเกศ เป็นลูกน้องที่ทำงานที่เดียวกัน แต่นอนในมุ้ง ไม่กินด้วย ทราบว่า ทั้งสองคนกินเหล้าตั้งแต่เลิกงานตอนเย็น เมื่อเมาก็คุยกันเสียงดัง ตามประสานคนเมา แต่ไม่เห็นว่าจะมีเรื่องทะเลาะกัน ต่อมา ต้นเห็น นายเอกพลฯ คนบาดเจ็บ ล้มลง ก่อนที่จะเห็น นายอนันต์ฯ แตะซ้ำ อีกครั้ง จึงตกใจออกมาดู ก็พบมีเลือด จึงได้บอกกแฟนผู้บาดเจ็บ และแจ้งตำรวจดังกล่าว สำหรับพวกคนเองกำลังมาทำงานอาทิตย์กว่าทำฟ้าเพดานแถวนี้เลยมาเช่าที่พักอยู่ จนมีมาเรื่องแทงกัน ดังกล่าว
ทางด้าน น.ส.ณัฐฐีริณี สีจันไชย อายุ 31 ปี ภรรยาของ นายเอกพลฯ ที่ยืนรำไห้อยู่ในที่เกิดเหตุ เผยว่า ตอนเกิดเหตุไม่ได้ยินเสียงทะเลาะ เพราะทั้ง 2 คน ทำงานร่วมกันมานาน และเป็นคนบ้านเดียวกัน ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ก่อนเกิดเหตุตนเองซึ่งพักอยู่ห้องติดกับห้องเกิดเหตุ และห้องของตนเอง มีครัวอยู่หลังห้อง เห็นจู่ๆ นายอนันต์ ก็เดินไม่พูดไม่จา เข้ามาในครัว แล้วเดินออกไป จากนั้นน้องอีกคนก็มาบอกว่า สามีโดนแทง ซึ่งคาดว่า นายอนันต์ จะมาหยิบมีดในห้องครัวออกไป ก่อเหตุ ซึ่งตอนนี้ตนเองยังไม่รู้เลยว่า เพราะอะไร นายอนันต์ ถึงลงมือก่อเหตุได้ ทั้งที่ไม่มีวี่แวว หรือ มีเรื่องทะเลาะกันเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ควบคุมตัว นายอนันต์ฯ มาที่ สภ.พระธาตุช่อแฮ เจ้าตัวอยู่ในอาการเมา พูดจาไม่ รู้เรื่อง จึงได้นำไปเข้าห้องขัง สงบสติอารมณ์ เพื่อจะได้ทำการสอบสวนหาสาเหตุในการแทง ส่วนการตั้งข้อหาอยู่ระหว่างการพิจารณา เนื่องจากตอนนี้ผู้บาดเจ็บ มีอาการสาหัส เข้าไปรักษาตัวที่ รพ.แพร่ ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะอย่างไร จึงจะได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ มาทำการสอบสวนอย่างละเอียดก่อน
นายสุบรรณ ปะตะวัง อายุ 53 ปี ลุงผู้บาดเจ็บ เผยว่า สาเหตุการก่อเหตุ น่าจะเกิดจากเมาแล้วคุยการเมือง ทั้งระดับประเทศ และระดับโลก จึงเกิดการแบ่งแยก ก่อนจะก่อเหตุได้ยินว่า มึงทำกู 3 ครั้งแล้วนะ แล้ว นายอนันต์ฯ จึงก่อเหตุแทงดังกล่าว ซึ่งทั้งสองคน ทำงานกันมานานแล้ว หากกินเหล้าด้วยกันก็จะเสียงดัง และเรื่องในวงเหล้าก็คือเรื่องการเมืองตลอด หากไม่กินก็จะปกติ แต่ถ้ากินก็มันจะเสียงดังกันแบบนี้ จน ระยะหลังตนเองจึงไม่สนใจ แต่ครั้งนี้ น่าจะคุยการเมืองและกดดันมานาน จึงก่อเหตุขึ้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกพล ผู้บาดเจ็บ อาการสาหัส เพราะถูกแทง 2 แผล คือที่หน้าอก และหน้าท้อง ทาง รพ.แพร่ จึงได้นำตัวส่งรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล จ.ลำปาง
