(มีคลิป)คลั่งบุกยิง ผู้ใหญ่บ้านและกรรมการกองทุนเงินล้านดับคาที่ 3 ศพ ส่วนอัยการที่คนร้ายหมายจะฆ่ารอด

12555
0
- ผู้สนับสนุนแพร่ข่าว -

เหตุการณ์ยิงกันตายสาเหตุทะเลาะกันในไลน์หมู่บ้านรายนี้เกิดเมื่อเวลา10.20น.วันที่ 10 มิถุนายน 2565 ขณะที่ ร.ต.ท.(ญ.)ธนัญญา เสมอใจ รอง สว.สอบสวนสภ.เมืองแพร่ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนประจำวัน สภ.เมืองแพร่ รับแจ้งเกิดอุกฉกรรจ์มีคนถูกยิงอาการสาหัส 3 รายที่ศาลาหมู่บ้านบ้านทุ่งน้ำใส หมู่ 7 ต.เหมืองหม้อ อ.เมืองแพร่ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.วรพล พลมณี ผกก.สภ.เมืองแพร่ ทราบและรุดไปที่เกิดเหตุร่วมกับ พ.ต.ท.พากษกรณ์ เจนใจ รองผกก.ป.สภ.เมืองแพร่ พ.ต.ท.ดิเรก กาศจักร สว.สส.สภ.เมืองแพร่ ตำรวจสายตรวจ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองแพร่ จำนวนหลายนาย

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบ ร.ต.ท.ศดายุ สัทธรรมนุวงศ์ รองสว.(ป)สภ.เมืองหม้อ สายตรวจตำบลเหมืองหม้อรักษาสถานที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือด 3 ศพ เป็นชาย 2 หญิง 1 ทราบชื่อ นายเสธนีย์  เสนะสุทธิพันธ์ อายุ 47 ปีผญบ.ม.7 ต.เหมืองหม้อ สภาพถูกยิงล้มขาข้างขวายังพาดเก้าอี้ รายที่ 2 นายชลอ พุทธวงศ์ อายุ 59 ปี กรรมการกองทุนหมู่บ้าน และรายที่ 3 นางแสงทอง  บุญสุวรรณ อายุ 63 ปี  เป็นกรรมการกองทุนหมู่บ้านถูกยิงที่ศีรษะทั้ง 3 รายส่วนมือปืนที่ก่อเหตุได้รับแจ้งว่า คือนายพิทักษ์  หลังก่อเหตุได้ขี่รถ จยย. หลบหนีไป

จากการสอบถาม นายธนวัช วุฒิเมธารักษ์ ประธานกองทุนหมู่บ้าน ที่อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่า ระหว่างก่อเหตุ คณะกรรมการหมู่บ้านประชุมกัน นายพิทักษ์ชัย ได้ขี่รถจยย. มาดูลาดเลาเมื่อเห็นว่าบุคคลที่ต้องการสังหารมาครบ ได้เดินเข้ามาพร้อมยกมือไหว้ ขอโทษแล้วบอกว่าคนที่ไม่เกี่ยวข้องให้อยู่เฉยๆ จากนั้นชักปืน .38 ยิงศีรษะผู้ใหญ่บ้านเป็นคนแรก โดยตอนที่ใช้ปืนจ่อหัว ผู้ใหญ่ยังถามว่า ปืนจริงหรือปืนปลอม ก่อนจะถูกยิงจ่อๆ จากนั้นได้ไล่ยิงอีก 2 คน หลังก่อเหตุได้ขับขี่รถ จยย.สวมหมวกกันน็อกหลบหนีไป

สำหรับชนวนสาเหตุฆ่า 3 ศพเกิดจาก ผู้ก่อเหตุไม่พอใจเกี่ยวกับการจัดตลาดนัดคลองถมมีคดีหมิ่นประมาทในการโต้ตอนทางไลน์กลุ่มหมู่บ้านและผู้ก่อเหตุทำการฟ้องแต่ถูกยกฟ้องจึงไม่พอใจกับกรรมการหมู่บ้านทั้ง 3 คนและอัยการผู้ไม่สั่งฟ้อง จึงแค้นใจตามยิงเสียชีวิตดังกล่าว

จากนั้นทางพนักงานสอบสวน ได้ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ลงมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหลักฐาน และสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อการติดตามตัว นายพิทักษ์ชัยฯ ผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี

ในเวลาต่อมาตำรวจ สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งว่ามีผู้ไปก่อเหตุที่สำนักงานอัยการจังหวัดแพร่ โดยมีอาวุธปืนขอสายตรวจ สภ.เมืองแพร่ช่วยระงับเหตุ ต่อมาทราบว่าผู้ที่บุกไปคือ นายพิทักษ์ชัย คนที่ยิงคนตายที่บ้านทุ่งน้ำใส 3 ศพ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการบุกจับกุมตัวได้ พร้อมอายุปืน .38 ทูตมรณะที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นทราบข้อมูลว่า นายพิทักษ์ชัยฯ จะไปก่อเหตุ ยิงอัยการเจ้าของคดี ที่สั่งไม่ฟ้องคดีที่ นายพิทักษ์ชัย เป็นโจทฟ้อง 1 ผู้ตาย แต่บังเอิญว่า อัยการคนดังกล่าวไม่อยู่ห้องทำงานจึงรอดตายหวุดหวิด

นอกจากนั้น นายพิทักษ์ชัยฯ เผยว่า ได้พกระเบิดมาด้วย โดยเอาใส่กระเป๋าเป้สีน้ำเงิน วางไว้ใกล้ สนง.อัยการ จ.แพร่ ซึ่งระเบิด เป็นระเบิดที่ทำขึ้นเอง ทางเจ้าหน้าที่ตรวจชุดจับกุม จึงได้ประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บกู้ระเบิดมาทำการกู้ระเบิดในกระเป๋าที่วางบนโต๊ะ หน้าร้านค้าใกล้กับสำนักงานอัยการซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องทำการปิดถนน เพื่อป้องกันไม่ให้มีใคร เข้าออกถนนเหมืองหิต ตั้งแต่ 3 แยกโบ้เบ้ ไปถึงหน้า โรงแรมแพร่นครา เพื่อป้องกันอันตราย หากเกิดการระเบิด

จนกระทั่งเวลา 13.20 น. เจ้าหน้าที่สามารถกู้ระเบิดได้ พบว่า ในกระเป๋า เป็นระเบิดทำขึ้นเอง 3 ลูก เบื้องต้น คนร้ายสารภาพว่า แค้นฝังใจทั้งหมดมานาน ซึ่งตอนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ควบคุมตัว นายพิทักษ์ชัย ไว้ที่ สภ.เมืองแพร่ เพื่อทำการสอบสวน และจะได้ นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ต่อไป