ป่าไม้เข้าตรวจยึดไม้สักท่อนตัดจากสวนข้าวโพดแต่อยู่ในเขตป่าสงวน

3389
0
- ผู้สนับสนุนแพร่ข่าว -

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 1 ธ.ค.64 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกัน และปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ กรมป่าไม้ จนท.ชุดปฎบัติการพิเศษป่าไม้ ภาคเหนือ 6 จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.10(แม่ต้า) ตำรวจร้อย ตชด.323 กก.ตชด.32 (พะเยา)ตำรวจ สภ.เวียงต้าตำรวจ กก.4 บก.ปทส.ฝ่ายปกครองจังหวัดแพร่ ฝ่ายปกครองอำเภอลอง ฝ่ายปกครอง ต.เวียงค้า อ.ลอง ได้ร่วมกันทำการตรวจยึด ไม้สักท่อน จำนวน 6 ท่อน ปริมาตร 1.70 ลบม. คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 102,000 บาท (หนึ่งแสน สองพันบาทถ้วน)

จับกุม นางนิตยา (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี บ้านหมู่ที่ 1 ต.เวียงต้า อ.ลอง จ.แพร่ โดยกล่าวหาว่ากระทำผิด ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ฐาน “ทำไม้หรือเจาะ หรือสับ หรือเผาหรือทำอันตรายด้วยประการใดๆ แก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่,มาตรา 69 ฐาน “มีไม้สักไว้ในครอบครองโดยไม่ใด้รับอนุญาต” ตาม พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐาน “ทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต”

การจับกุมในครั้งนี้เกิดจากเจ้าหน้าที่ได้รับร้องเรียนมายังหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.10 (แม่ต้า) บ้านหลังดังกล่าวได้มีการลักลอบน้ำไม้เถื่อนมา ปลูกสร้าง และแปรรูปภายในบ้านน่าจะเป็นไม้ที่ได้มาไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงขอร้องเรียนเพื่อเข้าทำการตรวจสอบและข้อเท็จจริงดำเนินการต่อไป ได้แจ้งให้คณะเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว จนท.จึงได้สนธิกำลังเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้ง

พบบริเวณบ้านมีรัวรอบขอบชิด พบไม้สักท่อน จำนวน 6 ท่อน โดยไม้สักท่อนดังกล่าวมีลักษณะเป็นสิ่ง ปลูกสร้างทำเป็นเสาเพื่อสร้างโรงจอดรถ และไม้ดังกล่าวไม่ปรากฏรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีประทับเพื่อเป็นการแสดงการอนุญาตแต่อย่างใด และไม่ปรากฎรูปรอยดวงตราของรัฐบาลขาย และไม่ มีรูปรอยดวงตราของสวนป่าเอกชนแต่อย่างใด

โดยนางนิตยาฯ เจ้าของบ้านให้การว่าไม้สักที่ตัดมานั้น เพื่อประกอบเป็นสิ่งปลูกสร้างโรงรถ ที่สร้างไว้แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ตรวจสอบบริเวณรอบๆบ้านไม่พบการแปร รูปไม้ในบริเวณบ้าน ตามหนังสือร้องเรียนแต่อย่างใด จนท.จึงได้สอบถามนางนิตยา  เกี่ยวกับไม้สักท่อนดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตรวจพบ นางนิตยาให้การว่าไม้สักดังกล่าวตนเองไปตัดมาจากสวนข้าวโพดของตนเอง และตนเองตัดมาเพื่อต่อเติมโรงจอดรถ แต่ยังไม่แล้วเสร็จ

ต่อมา จนท.ได้เดินทางไปตรวจสอบต้นตอของไม้สักท่อนที่พบร่วมกับพนักงานสอบสวนโดยมีนางนิตยา นำตรวจสอบภายในสวนข้าวโพดที่ตนเองตัดพบว่าไม้สักที่ตัดมา พบตอไม้สักจำนวน 3 ตอ ตรงตามตอไม้ที่ จนท.ไปตรวจสอบ จากนั้นได้เช็คพิกัดและหาค่าพิกัดทางภูมิศาสตร์ด้วยระบบสัญญาณดาวเทียม (GPS) จับค่าพิกัดบริเวณรอบๆ เกษตรกรรม (ปลูกข้าวโพด) พบว่าบริเวณพิกัดดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวน แห่งชาติป่าแม่ต้าตอนขุน ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้นางนิตยาฯ ทราบว่าต้องถูกจับตามข้อกล่าวหาข้างต้นและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวียงต้า พร้อมด้วยของกลางเพื่อดำเนินคดีต่อไป.