กลุ่มวัยรุ่นรุมสกรัมน้องมิ้ว ทยอยเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ปากคำและทำประวัติ ขณะที่ ผกก.สภ.สูงเม่น ยัน หากพบมีการกระทำผิดกฎหมายก็จะมีการดำเนินคดี พร้อมชี้แจงให้สังคมทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ นายเพ็ญ ก่อกอง กำนันตำบลสูงเม่น สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมุนษย์ จ.แพร่ ได้นัดเจรจาตกลงระหว่าง ผู้ปกครองของ น้องมิ้ว เด็กหญิงที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย ตามที่เป็นข่าวนำเสนอไปแล้วนั้น ซึ่งการเจรจาดังกล่าวปรากฏว่า ไม่คืบหน้าเนื่องจาก คู่กรณีของน้องมิ้วมาไม่ครบ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวน้องมิ้ว ไปชี้จุดที่เกิดเหตุ 4 จุดประกอบด้วย ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำแม่มาน 2 จุด ต.หัวฝาย อ.สูงเม่น จ.แพร่ ฝายแม้ว ต.หัวฝาย อ.สูงเม่น จ.แพร่ และร้านซ่อมจักรยานยนต์ หมู่ 8 ต.แม่จั๊วะ อ.เด่นชัย จ.แพร่ เพื่อบันทึกเป็นสำนวนหลักฐานประกอบการดำเนินคดีผู้กระทำผิดกฎหมาย
ต่อมาเวลาบ่ายของวันที่ 5 พ.ย.64 ได้มีกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีของน้องมิ้ว ได้ทยอยเข้าพบ พ.ต.ท.สีหราช สุคันธมาลา สว.สส.สภ.สูงเม่น นำโดย นายไพรัช อายุ 29 ปี หรือนายตูน น้องพั้น น้องบิว น้องพลอย น้องอ้อม และเพื่อนๆ จำนวน กว่า 20 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคลิปการชกต่อยและรุมสกรัม น้องมิ้ว มาสอบสวนและบันทึกประวัติ เพื่อประกอบเป็นสำนวนในการดำเนินคดีรุมสกรัมน้องมิ้ว
โดย แม่ของน้องพลอย กล่าวว่า เพิ่งรู้เรื่องเมื่อวานนี้ มีเพื่อนมาบอกว่าลูกของตนเองได้ไปทะเลาะชกต่อยกับคนอื่น ตนเองก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง จนกระทั่ง เมื่อได้มาดูคลิปจึงปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นน้องพลอยลูกของตัวเอง เหตุการณ์นี้ยอมรับว่ามีความเสียหายไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัดแพร่ด้วย สิ่งไหนถ้าเห็นผิดถูกก็ว่ากันไปตามความเป็นจริงส่วนค่าเสียหายหากมีการเรียกร้องก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะไม่มีเงิน
ทางด้าน พ.ต.อ.สุชาติ สิงห์ขรณ์ ผกก.สภ.สูงเม่น กล่าวว่า คดีนี้ได้ลงมากำกับเอง มีทั้งในส่วนอำนาจของสืบสวนสอบสวนของ สภ.สูงเม่น กับ เด่นชัย ร่วมกันดำเนินคดี และได้แบ่งเป็นสามประเด็น คือ หนึ่ง ให้ผู้เสียหายคือ น้องมิ้ว ได้มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิต และคลายความวิตกในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง สอง ในส่วนใดที่เป็นคดีทางอาญา ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย และสาม หลังจากนี้จะมีการชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดให้สังคมได้ทราบถึงเหตุการณ์นี้ว่าคนแพร่ไม่ได้มีความโหดร้ายอย่างที่เข้าใจกัน
ในส่วนที่ว่าจะเป็นแก๊งหรือไม่นั้น ยังพูดไม่ได้เพราะว่าจะต้องมีการสอบสวนกันก่อน หากเป็นแก๊งก็จะได้จับกุมมาทั้งหมด แต่ทั้งนี้ เหตุการณ์นี้เมื่อรวบรวมจากข่าวสารเบื้องต้นที่มีออกมาพบว่ามีข้อขัดแย้งหลายจุดเหมือนกันและได้สั่งการให้ชุดสืบสวนหาข้อเท็จจริงมาเพื่อให้ชี้แจงให้สังคมได้ทราบและเข้าใจ พ.ต.อ.สุชาติฯ กล่าวปิดท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ น่าจะถึงจุดจบ เพราะตอนนี้กลุ่มวัยรุ่นทั้งหมด เดินทางมาให้ข้อมูล และแสดงตัวว่าเป็นคนในคลิป ซึ่งหลังจากนี้ คงปล่อยให้เป็นการตกลงไกล่เกลี่ย ระหว่างผู้เสียหายและคู่กรณี ในส่วนของการสอบสวน หากพบว่า มีใครกระทำความผิด ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป