ผู้การฯแพร่เอาจริงทิ้งทวนก่อนเกษียณส่งรองผู้การทำหน้าที่ขันน็อตจัดระเบียบ สภ.ห้วยไร่ กำชับหมดยุคส่วยแล้ว พฤติกรรมรีดส่วยพาตำรวจแพร่เสียชื่อเสียงเหม็นไปทั้งประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ เฟซบุ๊กเพจ แห่งหนึ่งโพสต์วิดีโอขณะที่ประชาชนขับรถผ่านด่านตรวจ แล้วมีเจ้าหน้าที่เข้ามาพูดคุยแล้วขอค่าดูแลด่าน เช่น ค่ากาแฟ ซึ่งปกติทำเป็นประจำอยู่แล้ว โดยเขียนข้อความระบุว่า เพิ่งทราบว่ามีค่าดูแลด่านด้วย !!! เค้าก็ให้กันทุกคน เค้าคนนั้นเป็นใครคะ หรือว่าประชาชนที่ขับรถผ่าน หากเขาทำผิดกฎหมาย ก็จับปรับตามกฎหมายดีกว่านะคะ ค่าดูแลด่านน่าจะมีงบส่วนกลางอยู่แล้ว คงไม่ต้องรบกวนประชาชนก็ได้ อย่างไรก็ต้องรอฟังคำชี้แจงด้วย เพื่อความเป็นธรรมคะ ด่านขาลงจากแพร่เข้าอุตรดิตถ์ ลำพังขับรถนี่ก็ยังไม่พอจะกินเลย ยังต้องมาเสียค่าดูแลด่านอีกหรือเนี่ย ปวดหัว จนกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่ว นั้น
ต่อมาเวลา 09.00 น.วันที่ 18 ก.ย.64 พล.ต.ต.มาโนช มีสกุลคุณ ผบก.ภจว.แพร่ ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.พิศุปกรณ์ น้อยปักษา รอง ผบก.ภ.จว.แพร่ เป็นหัวหน้าชุดกรรมการสอบข้อเท็จจริงรายงานผลการสิบหาข้อเท็จจริงกรณีตำรวจห้วยไร่รีดไถรถบรรทุกเฟอร์นิเจอร์ ทราบผลแล้ว ตำรวจที่กระทำความผิดคือ ด.ต.ชัย (ขอสงวนนามสกุล) ตำรวจประจำด่านยาเสพติดห้วยไร่ เป็นผู้กระทำความผิด เจ้าตัวรับสารภาพ หลังจากนั้นมีคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ตำรวจภูธรจังหวัดแพร่แล้ว
พล.ต.ต.มาโนช มีสกุลคุณ ผบก.ภจว.แพร่ กล่าวว่า ทางตำรวจจังหวัดแพร่มุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรให้บริการต่อประชาชน ยึดมั่นในระเบียบวินัย บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชน ตำรวจเป็นลูกหลานของประชาชน เมื่อพบการกระทำผิด ก็ต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด เรียกว่านิ้วไหนร้ายก็ต้องตัดทิ้งไป เบื้องต้นสั่งสำรองราชการไว้ก่อนแล้ว และลงโทษทางวินัยจะตามมาหลังการสอบสวนอย่างเป็นทางการเป็นที่ยุติ ขอให้ประชาชนที่ใช้ยวดยานอุ่นใจเมื่อผ่านจังหวัดแพร่ถ้าไม่ทำผิดกฎหมาย ใครที่ประสบปัญหาสามารถประสานงานร้องเรียนมาที่ตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ได้โดยตรง
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 ก.ย.64 พล.ต.ต.มาโนช มีสกุลคุณ ผบก.ภจว.แพร่ มอบหมายให้ พ.ต.อ.นิคม เครือนพรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.แพร่ เดินทางไปมอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยไร่ ณ ด่านตรวจห้วยไร่ โดย พ.ต.อ.นิคมฯ ได้ตอบคำถามสื่อมวลชน ในเรื่องที่มีตำรวจด่านตรวจห้วยไร่ ไถเงินรถขนเฟอร์นิเจอร์ ว่า เบื้องต้นได้สั่งย้าย ดต.ชัย ไปปฏิบัติหน้าที่ ที่ ศปก. ภ.จว.แพร่ เพื่อดำเนินการสอบสวน หาข้อเท็จจริง แต่จากนี้จะไม่ให้ทำงานเกี่ยวกับมวลชน อีกต่อไป แต่หากว่ามีความผิดจริงก็จะดำเนินการลงโทษ ให้ถึงที่สุด ส่วนจะมีการทำเป็นขบวนการหรือไม่ รอการสอบสวนอีกครั้ง.