ชื่นชม 6 หนุ่ม-สาว ขับรถผ่านมาเห็นรถประสบอุบัติเหตุชนเขาตะแคงข้างถนน เอ๊ะใจกลัวมีคนในรถจึงขับรถย้อนกลับมาดู พบว่ามีคนเจ็บจริงเป็นพ่อเฒ่าเกือบตายอยู่ในรถ ขณะเกิดเหตุฝนตก ไม่มีใครจอดลงมาช่วยเหลือ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 ก.ย.64 ที่ถนนสายแพร่-ลอง กม. ที่ 11-12 ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ซึ่งเป็นถนนขึ้นเขาที่คดเคี้ยว อันตราย โดยเฉพาะเมื่อฝนตก เกิดอุบัติเหตุรถกระบะนิสสัน นาวาร่า แค็ป สีบอร์นเทา ทะเบียน ฒช 2650 กรุงเทพมหานคร เสียหลักชนเขา พลิกตะแคงข้าง คนขับเป็นชายสูงอายุ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า คิว จมูก ปากแตกเป็นแผลฉกรรจ์ และมีอาการจุกหน้าอกหายใจไม่ออก พลเมืองที่ประสบเหตุ นำส่ง รพ.แพร่ ตำรวจสายตรวจ ต.ป่าแมต และ กู้ชีพ-กู้ภัยเทศบาลตำบลป่าแมต ออกเหตุ และให้สัญญาณจราจรในที่เกิดเหตุ ป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
จากการสอบถาม นายพรเทพ แก้วพลอย อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 133 ม.1 ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พลเมืองดีที่จอดให้การช่วยเหลือ เล่าว่า ระหว่างที่ตนเองและเพื่อนบริษัท จำนวน 6 คน ขับรถผ่านถนนสายนี้ เพื่อจะนำสินค้าไปส่งให้ลูกค้า เวลานั้นฝนตกปรอยๆ ก็พบรถคันดังกล่าว ประสบอุบัติเหตุพลิกตะแคงอยู่ข้างถนน ไม่มีใครช่วย จึงนั่งพูดกันว่าถ้ามีคนเจ็บในรถล่ะ จะทำอย่างไร ทั้งที่ขับรถเลยไปแล้ว จึงกลับมาดูที่เกิดเหตุ ก็พบว่าคนเจ็บยังอยู่ในรถ จึงได้ช่วยกันนำออกมาและนำส่งโรงพยาบาล
ซึ่งหากพวกตนไม่ลงมาคุณตาอาจจะเสียชีวิตแล้ว เพราะจุกอกหายใจไม่ออก อาจจะเกิดจากการที่หนาอกกระแทกพวงมาลัย ระหว่างช่วยนำร่างออกมาทราบว่า คุณตาบอกว่ากำลังจะขับรถกลับบ้าน แต่ระหว่างทางฝนตกถนนลื่น รถเสียหลักชนภูเขาพลิกตะแคงดังกล่าว และระหว่างที่เกิดเหตุฝนตก จึงไม่มีใครกล้าลงไปช่วย เพราะอาจจะกลัวเปียกฝน หรือคิดว่าคงมีคนมาช่วยไปแล้ว จึงไม่มีใครลงมาดู หากพวกคนไม่กลับมาคุณตาคงแย่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหนุ่ม-สาวทั้ง 6 คน ทำงานอยู่ บริษัท เอสทีดีเค สาขา จ.แพร่ ถือเป็นบุคคลที่น่ายกย่องชื่นชม เพราะขนาดขับรถผ่านไปแล้ว ยังขับกลับมาดู มาช่วยเหลือผู้ประสบเหตุแม้ว่าฝนจะตกและต้องเสียเวลา จึงขอชื่นชมในความมีน้ำใจอย่างยิ่ง