ฉินไขว้…คนชั่วรังแกคนดี (ต้นตอของปลาท่องโก๋)

1419
42
- ผู้สนับสนุนแพร่ข่าว -

…เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปในสมัยซ้องใต้ที่มีเมืองลิ่มอันเป็นเมืองหลวง (ราชวงศ์ซ้องหรือราชวงศ์ซ่งซึ่งมี 2 ยุค คือซ้องเหนือ (ค.ศ.960-1127) (พ.ศ.1503-1670) และซ่งใต้ (ค.ศ. 1127-1279) (พ.ศ.1670-1822) ยุคนั้นราชวงศ์ซ้องใต้กำลังมีศึกปะทะกับประเทศไต้กิม

…อย่างเช่นในสมัยของพระเจ้าเกาจงแห่งราชวงศ์ซ้อง(ประมาณ พ.ศ.1670-1704)มีเรื่องทำนองนี้เช่นเดียวกันคือ“กังฉินฆ่าคนดี”

…ฮ่องเต้ในขณะนั้นมี“งักฮุย”หรือ“เย่ว์เฟย”เป็นยอดขุนพล ที่นอกจากจะเก่งกาจด้านการรบสามารถต่อต้านทัพศัตรูได้ทุกครั้ง งักฮุยยังเป็นคนดีมีคุณธรรมจงรักภักดี รักชาติยิ่งชีพ จนเป็นที่นิยมรักใคร่ของคนจีนทั้งประเทศ

…ผิดกับ “ฉินฮุ่ย” หรือ “ฉินไขว้” มหาเสนาบดีกังฉิน กับภรรยา“หวังซื่อ”ที่แอบติดต่อกับข้าศึก รับสินบน และขายชาติจีนให้พวกไต้กิม เท่านั้นยังไม่พอฉินไขว้ยังคิดหาวิธีกำจัดกับงักฮุยให้พ้นวิถีทางด้วย เพราะเห็นว่านี่คือก้างชิ้นโตที่ขวางคออยู่

…ฉินฮุ่ย จึงพยายามเพ็ดทูลข้อมูลต่างๆกับฮ่องเต้ ก่อนจะลงเอยด้วยข้อกล่าวหาว่า งักฮุยซ่องสุมกำลังเตรียมก่อการกบฏ ทำให้ป้ายอาญาสิทธิ์ถูกส่งไปเรียกตัวงักฮุยที่กำลังทำศึกอยู่ให้กลับมาเมืองหลวง แต่ว่าเหล่าบรรดาจอมยุทธ์ผู้รักชาติต่างคอยสกัดขัดขวางไม่ให้ป้ายอาญาสิทธิ์ถึงมืองักฮุย แต่ก็สกัดได้เพียง 10 ครั้ง เพราะครั้งที่ 11 งักฮุยได้รับป้ายอาญาสิทธิ์

…คนรักชาติรักแผ่นดินอย่างงักฮุย เมื่อถูกป้ายอาญาสิทธิ์เรียกตัว ก็เดินทางกลับเมืองหลวงทันทีเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ซึ่งก็เป็นเหตุให้ฮินฮุ่ยสบโอกาสประหารงักฮุยจนเสียชีวิต

…งักฮุยสิ้นชีพ ประชาชนร่ำไห้ระงม ฉินไขว้และภรรยาหัวร่อร่า แผ่นดินซ้องใต้ลุกเป็นไฟเพราะประชาชนต่างลุกฮือขึ้นก่อการกบฏ เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการถูกกดขี่บีฑาจากเหล่าบรรดาขุนนางกังฉินที่มีฮินฮุ่ยเป็นแกนนำ

…ในที่สุดราชวงศ์ซ้องใต้ก็ล่มสลาย

…ฉินฮุ่ยและภรรยาในขณะที่กำลังจะหนีพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติที่ขายชาติและโกงกินมามากมายเพื่อไปเสวยสุขยังประเทศไต้กิม แต่ท้ายที่สุดก็ไปไม่รอดถูกประชาชนจับได้และลงประชาทัณฑ์จนตาย

…ศพของ 2 ผัวเมียถูกนำไปแขวนไว้ที่กำแพงเมือง ให้แร้งกาจิก ให้ประชาชนที่เคียดแค้นขว้างปาศพ

…ส่วนคุณความดีของวีรบุรุษงักฮุยนั้น คนจีนไม่ต้องการให้ลูกหลานลืมเลือน จึงได้สร้างศาลเจ้างักฮุยไว้ในเมืองหางโจว ริมทะเลสาบซีหู บริเวณหลุมศพงักฮุยเพื่อให้ลูกหลานได้รำลึกถึงในวีรกรรม

…ศาลเจ้างักฮุยนอกจากจะมีรูปปั้นของงักฮุยตั้งตระหง่านให้คนเคารพ คารวะดวงวิญญาณแล้ว ข้างหลุมศพงักฮุยยังมีรูปหล่อของฉินฮุ่ยกับภรรยา “หวังซื่อ”และขุนนางกังฉินอีก 2 คน นั่งคุกเข่าเอามือไพล่หลังอยู่

…เวลาคนจีนมาคารวะดวงวิญญาณงักฮุยแล้ว ก็มักจะไม่ลืมไปที่รูปหล่อฉินฮุ่ยกับภรรยาเพื่อถ่มน้ำลายใส่ ก่นด่า บางคนถึงขนาดกระโดดถีบก็มี

…นับเป็นความเคียดแค้นฝังลึกที่คนจีนมีต่อฉินฮุ่ยและภรรยา ซึ่งความแค้นที่เข้ากระดูกดำเช่นนี้ทำให้คนจีนได้ถ่ายทอดเรื่องราวของคนขายชาติฉินฮุ่ยและภรรยาให้ลูกหลานฟังต่อๆกันมา เพื่อเป็นอุทาหรณ์และเตือนสติ

…เท่านั้นยังไม่พอคนจีนในอดีตหลังยุคราชวงศ์ซ้องใต้ยังได้คิดค้นขนมขึ้นมาชนิดหนึ่ง เป็นการนำแป้ง 2 ชิ้นมาประกบติดกัน แล้วใส่ลงไปในน้ำมันร้อนๆเดือดพล่าน ทอดให้สุกก่อนจะนำมาฉีกกินอย่างหนำใจ

…แป้ง 2 ชิ้น แทนคนขายชาติฉินฮุ่ยและภรรยา ที่ต้องใส่ทอดในน้ำมันร้อนๆเพราะต้องการให้ทั้งคู่ทุกข์ทรมานเหมือนอยู่ในขุมนรกที่ร้อนสุดขั้ว และเมื่อทอดสุกแล้วต้องนำมาเคี้ยวกินให้หายแค้นเหมือนกำลังกินคนขายชาติ
…เราเรียกว่า“ปาท่องโก๋”ไงล่ะ
Sirisak Srt