……….เหตุสลดใจในปัญหาชีวิตเศรษฐกิจไม่ดีเกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 ธ.ค.63 ขณะที่ ร.ต.อ.คะนอง รัตนะ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านกวาง อ.สูงเม่น จ.แพร่ ทำหน้าที่พนักงานสอบสวนประจำวัน สภ.บ้านกวาง รับแจ้งว่ามีคนแขวนคอตายที่ปงแม่สาย เขตติดต่อ บ้านเหล่า และ บ้านกวาง อ.สูงเม่น จ.แพร่ ให้ตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.ท.วีรยุทธ อรุณ สวญ.สภ.บ้านกวาง ทราบ และรุดไปที่เกิดเหตุร่วมกับแพทย์เวร รพ.สูงเม่น และหน่วยกู้ภัยสูงเม่น
……….เมื่อถึงบ้านเกิดเหตุเป็นบ้านสวนไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่หมู่ 6 ต.บ้านกวาง อ.สูงเม่น จ.แพร่ภายในบริเวณบ้านซึ่งสร้างเป็นทางระเบียงยกพื้นสูงด้านล่างพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อนายมงคล หรือ โจ้ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 244/19 ต.บ้านเหล่า อ.สูงเม่น จ.แพร่ สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงินแขนแดง กางเกงขาสั้นกีฬา สีน้ำเงิน ใช้เชื่อไนล่อนสีเขียว ที่เป็นเชือกกระเช้าของบ้าน แขวนคอตัวเองกับขื่อของระเบียง
………พบมีเก้าอี้ 1 ตัว และจดหมายมีข้อความว่าให้เพื่อนคนหนึ่งให้มาร่วมงานศพทุกวันด้วยและมีโทรศัพท์มือถือวางทับไว้ ตรวจสอบไม่พบว่ามีร่องรอยการต่อสู้ หรือ การถูกทำร้ายแต่อย่างใด
……….จากการให้การของชาวบ้านคนหนึ่งให้การว่า ผู้พบศพคนแรกคือ นางส่วย วงศ์งาม ผู้เป็นแม่ จะมาเรียกลูกชายไปกินข้าว เมื่อมาถึงในบ้าน พบลูกชายคนเดียวแขวนคอตาย จึงทำใจไม่ได้เป็นลมล้มพับ จนต้องนำส่งโรงพยาบาลเพราะนางส่วยฯ มีลูกชายเพียงคนเดียว ไม่มีครอบครัว จึงอยู่ช่วยเหลือแม่ทำงานบ้านทุกอย่างโดยทั้งสองแม่ลูก เช่าที่ ตรงข้ามบ้านพักที่ใช้ก่อเหตุปลูกผักบุ้งปลูกมะเขือขายเลี้ยงชีพโดยทำกันสองคนแม่ลูก ไม่เคยมีปัญหาอะไร จนผู้เป็นลูกมาแขวนคอตายอย่างไม่รู้สาเหตุดังกล่าว
……….ทางด้านเพื่อนบ้านที่มีสวนข้างๆ เผยว่า ไม่คิดว่านายมงคลฯ จะก่อเหตุแขวนคอตาย เพราะว่า เมื่อวานเย็น ยังชวนดื่มเหล้าแก้เมื่อย นายมงคลฯ ยก 2 แก้ว ก็กลับบ้านไม่มีบ่น หรือ ว่าพูดอะไรที่เป็นลางบอกเหตุ เช้าวันนี้ ก็เห็นมาพ่นยาที่สวน และช่วยแม่ถอนผักบุ้ง เพื่อส่งขายให้กับแม่ค้าอยู่ดีๆก็เดินออกจากแปลงหายไปจนแม่ไปพบว่าแขวนคอตายแล้ว หรืออาจเป็นเพราะช่วงนี้ ราคาผักบุ้งตกต่ำมากเหลือราคา 8-10 บาท เท่านั้นจึงเป็นเหตุให้ นายมงคลฯ คิดมากจนแขวนคอตายก็เป็นไปได้
……….จากนั้นแพทย์เวร รพ.สูงเม่น และ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการชันสูตร พลิกศพ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย และคาดว่า เสียชีวิตไม่เกิน 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา เนื่องจากร่างกายยังอ่อนอยู่ไม่แข็งตัว เมื่อญาติไม่ติดใจในการตาย จึงได้มอบศพให้ญาติๆ นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.
