(มีคลิป)สส.วรวัจน์ฯจับมืออธิบดีกรมศิลปากร ลงพื้นที่ไขปริศนาเมืองโบราณ 2,500 ปี

216
0
- ผู้สนับสนุนแพร่ข่าว -

วันที่ 14 ก.ค.67 นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ ร่วมกับ นายพนมบุตร จันทรโชติ  อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมคณะเดินทางเข้าสำรวจพื้นที่เมืองโบราณเมืองเชียงชื่น ซึ่งตั้งอยู่ในป่าห้วยแม่สวก ณ อุทยานแห่งชาติดอยผากลอง ต.ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่ โดยมีหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดแพร่ เข้าร่วมการค้นหา เช่น อำเภอลอง อบจ.แพร่ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หลายพื้นที่ รวมถึงหน่วยงานป่าไม้และเจ้าหน้าที่อุทยาน ต่างเข้าร่วมเปิดปริศนาเมืองโบราณแห่งนี้กัน จากตำนาน พงศาวดารทั้งโยนกและพงศาวดารไทยใหญ่ พบปริศนาเมืองโบราณที่มีประวัติกล่าวถึงมาตั้งแต่ก่อนพุทธกาล กว่า 2,500 ปี ที่ชื่อว่า เมืองกุกุฎไก่เอิก หรือว่าเมืองไก่ขัน ซึ่งหมายถึงเมืองที่ไก่ขันเพราะเห็นแสงอาทิตย์เป็นแห่งแรกก่อนพื้นที่อื่น

ซึ่งในตำนานได้กล่าวว่าเมื่อกว่า 1,300 ปีก่อน เมื่อพระนางจามเทวีได้เสด็จและค้นพบเมืองโบราณแห่งนี้ก็เคยได้ขนานนามเมืองแห่งนี้ว่า เววาภาสิต แต่จากเหตุที่พระนางหลงทาง พระนางจามเทวีทรงตรัสว่า ลองขึ้นไปก่อนเถอะ คำว่า ลอง จึงถูกนำมาเรียกชื่อเมืองใหม่ว่า เมืองลอง และด้วยปรากฏพบแร่โลหะที่เมืองโบราณนี้เป็นจำนวนมากจึงมีผู้เรียกเมืองนี้ว่า เวียงเชียงชื่น ซึ่งหมายถึงว่าพบโลหะจำนวนมาก แต่ต่อมาได้กลับมาใช้ชื่อเมืองลองเช่นเดิม ซึ่งร่องรอยของเมืองโบราณแห่งนี้มีความเก่าแก่มาก และพบพระพุทธรูปโบราณ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในด้านต่างๆ อายุนับพันปี ถูกนำไปประดิษฐานอยู่ในวัดต่างๆในพื้นที่ของ อ.ลอง จนบางแห่งก็เรียกว่าเป็นกรุสมบัติ เวียงเชียงชื่นมหาสมบัติแห่งล้านนา เช่น ที่ในวัดสะแล่ง อ.ลอง จ.แพร่ เป็นต้น

โดยพบว่า มีชาวบ้านพบ เครื่องปั้นดินเผา และเหล็กตะปู โบราณ รวมไปถึงกรุพระยอดขุนพล และเครื่องมือในสมัยโบราณจำนวนมาก บางส่วนอบต.ต้าผามอง ได้เก็บรักษาไว้และบางส่วนนำไปเก็บไว้ที่วัดสะแล่ง อ.ลอง จึงได้มีการร่วมสำรวจ เพื่อไขปริศนาเมืองโบราณแห่งนี้ขึ้น ดังนั้นเชื่อว่าอีกไม่นานปริศนาเมืองโบราณที่กล่าวขานกันมากว่า 2,500 ปี ก่อนพัทธกาล คงจะได้เปิดสู่สายตาประชาชนคนไทย และเวียงเชียงชื่นจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของประเทศไทยขึ้นมาอีกแห่งหนึ่งอย่างแน่นอน

ทางด้านนายวรวัจน์ฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าในพื้นที่ที่คนจังหวัดแพร่และคนอำเภอลองเรียกว่าเมืองเชียงชื่นเป็นพื้นที่ที่ถือว่าเป็นเมืองเก่ามากเชื่อว่าในพื้นที่นี้คงอายุมากกว่า 1,000 ปี แล้วก็มีวัตถุโบราณที่พบเห็นอยู่จำนวนมากกระจัดกระจายไปอยู่ตามวัดต่างๆค่อนข้างจะมากซึ่งทำให้พื้นที่ของเวียงเชียงชื่นน่าเป็นที่น่าสนใจ หากว่าเราพัฒนาโดยการเก็บข้อมูลต่างๆและการสร้างจำลองเมืองนี้ขึ้นมาใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ขึ้นมาทับภาพจำลองเป็นภาพ 3 มิติ เราก็จะฟื้นเมืองนี้อาณาจักรนี้ขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่งเวียงเชียงชื่นสมัยเก่าเขาเรียกเมืองกุกุฎไก่เอิกคล้ายๆกับเป็นเมืองไก่ขันแสดงว่าที่นี่เป็นจุดแรกที่พระอาทิตย์ขึ้นแล้วก็จะไปเชื่อมกับเมืองกุกุฎนครลำปางเพราะพื้นที่นี้กับพื้นที่ลำปางสมัยก่อนเป็นพื้นที่เดียวกันซึ่งเราหาร่องรอยของความเจริญของเมืองนี้ที่แม้ว่าตอนนี้โบราณมากไม่มีคนอยู่อาศัยแต่ว่าในอดีตเป็นเมืองหนึ่งที่น่าจะใหญ่พอสมควรเพราะมีวัดไม่น้อยกว่า 7 วัดที่อยู่ในบริเวณนี้แล้วก็มีทักษะสถานที่น่าสนใจโดยเฉพาะในบริเวณรอบๆมีสวนหินรูปร่างลักษณะแปลกตาและเชื่อว่าสมัยก่อนเป็นพื้นที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจทางสังคมและวัฒนธรรม วันนี้จึงเชิญทางอธิบดีกรมศิลปากรมา เพื่อหาเเนวทางที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป

โดยนายพนมบุตรฯ เผยว่า หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ที่ชำนาญการ เข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบ หลักฐานต่างๆ หากมีข้อมูล ที่เป็นเมืองโบราณ ก็จะประสานงบประมาณหน้า ทำการเข้ามาบูรณะเพื่อเป็นเมืองท่องเที่ยวต่อไป เบื้องต้นจากการตรวจสอบวันนี้ พบว่ามี ของโบราณหลายๆอย่างที่มาจากยุคนั้นซึ่งหลังจากนี้ จะให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเก็บข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อดำเนินการขั้นต่อไป.