หลังออกไปหาของป่ากับเพื่อน รวม 3 คน แต่กลับมาบ้าน 2 คน อีกคนหลงป่าหายไป นายก อบต. ต้องตั้งศูนย์ค้นหา เตรียมตัวออกป่าตามหา แต่สุดท้ายมีคนแจ้งว่าเจอแล้วที่ป่า อ.เมืองแพร่ พ่อ-แม่ ดีใจสุดๆ นึกว่าลูกตายไปแล้ว
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 พ.ย.66 ส.อ.วินัย เทพสาธร นายก อบต.บ้านเหล่า อ.สูงเม่น จ.แพร่ พร้อมเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย อบต.บ้านเหล่า และชาวบ้านพรานป่า ได้รวมตัวกันที่บ้านของ นายศรีวงศ์ และนางต๋อง เหล่ากาวี อายุ 85 ปี บ้านเลขที่ 230/1 ม.9 บ้านเหล่า อ.สูงเม่น จ.แพร่ ด้วยข้าวปลาอาหารเป็นลาบเนื้อ และแกงอ่อม ชุดใหญ่ เพื่อรอรับ นายนิคม เหล่ากาวี อายุ 49 ปี ลูกชายที่หายออกจากบ้านไปหลังจากที่ไปหาของป่า เป็นเวลา 8 วัน โดยทางบ้านต่างเป็นห่วงว่า นายนิคมฯ อาจจะเสียชีวิตในป่า เพราะไม่สามารถติดต่อได้
โดย ส.อ.วินัยฯ นายกอบต.บ้านเหล่า เผยว่าหลังจากทราบข่าวจากญาติๆ นายนิคมฯ หลงป่าหายไปหลายวัน หลังจากทางบ้านได้เข้าแจ้งความคนหายแล้ว ตนเองจึงได้ตั้งศูนย์อำนวยตามหาคนหาย โดยเตรียมพร้อมทั้งกำลังคน และอุปกรณ์รวมถึง น้ำและอาหาร เพื่อจะออกตามหาในเช้าของวันนี้(2 พ.ย.66) จนกระทั่ง เช้ามืดได้รับการประสานจาก ผู้ใหญ่บ้านน้ำจ้อม ม.8 ต.ช่อแฮ อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ว่า พบบุคคลสูญหายแล้วในสภาพอ่อนเพลีย เพราะอดอาหาร ได้ให้การช่วยเหลือให้น้ำให้ข้าวและพักอยู่ที่บ้านน้ำจ้อม ตนเองจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ร่วมกับชาวบ้านออกไปรับตัวกลับบ้าน
ทางด้าน นางแอน ปราบภัย อายุ 55 ปี พี่สะใภ้ เผยว่า ทางครอบครัวดีใจมากหลังจากทราบว่า นายนิคมฯ ปลอดภัยมีชีวิตอยู่ ตอนแรกก็กลัวว่าจะตายในป่า ซึ่งตัวนายนิคมฯ เป็นหนุ่มโสด ชอบออกไปหาของป่า ที่ผ่านมาก็ออกไป 2-3 วัน ถึงจะกลับบ้าน แต่ครั้งนี้ออกไปป่ากับเพื่อนรวม 3 คน ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.66 พอได้ 3 วัน เพื่อนที่ไปด้วย 2 คน กลับมาก่อน มาบอกว่า นายนิคมฯ หายไป สงสัยหลงป่า ทางบ้านจึงออกตามหา พบรถ จยย.จอดอยู่ที่ป่าแม่ก๋อนแม่สาย (แม่เข็ก) ต.บ้านกวาง แต่ไม่พบตัว จึงบอกชาวบ้านแถวนั้นให้ช่วยติดตามหาก็ไม่พบตัว
เวลาก็ผ่านมาหลายวันคิดว่านายนิคมฯ จะกลับมาแต่ก็ไร้วี่แวว ทางครอบครัวจึงไปแจ้งความคนหายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านกวาง จากนั้นประสาน นายก อบต. ฝ่ายปกครอง และได้ทำการบนบานสารกล่าวว่า หากพบตัวนายนิคมฯ ไม่ว่าจะมีชีวิต หรือไม่มีชีวิต แต่ขอให้พบ จะแก้บนหัวหมู มาเช้าวันนี้ก็ได้รับข่าวดี ว่ามีชาวบ้านอีกอำเภอพบตัวนายนิคมฯ พ่อ-แม่ ต่าง ดีใจสุดๆ ที่ทราบว่า ลูกชายมีชีวิตอยู่ พร้อมกับมีชาวบ้านมารวมตัวกันเพื่อออกค้นหาอยู่เต็มบ้าน จึงได้สั่งเนื้อมาลาบขม และแกงอ่อม เลี้ยงชาวบ้าน เพราะดีใจที่ลูกชายมีชีวิตอยู่ ก่อนจะไปรับตัวมา
ต่อมาเวลา 09.20 น. รถเจ้าหน้าที่ที่ไปรับตัว นายนิคมฯ ก็เดินทางมาถึงบ้าน ท่ามกลางความดีใจของพ่อ-แม่ ญาติๆ และเพื่อนบ้าน พบว่า นายนิคมฯ สวมกางเกงขายาวสีดำ เสื้อยืดดำ สวมเสื้อคลุมแขนยาวทับ พร้อมกระเป๋าสะพายหลังสีดำ สภาพดีขึ้น เพราะได้ทานอาหารมาจากหมู่บ้านที่เจอตัว ลงรถมาพร้อมกับบอกว่า กลับมาแล้วไม่เป็นอะไรแล้ว ก่อนจะบอกว่า ได้หนอนรถด่วนในย่าม 2 กระบอก เอาไปทำกินกันเลย ก่อนจะเดินเอาของไปเก็บท่ามกลางญาติๆ
นายนิคมฯ เผยว่า หลังจากที่ออกไปหาของป่ากับเพื่อน จากนั้นก็พลัดหลง จนตนเองไม่รู้ว่า ทางไหนเป็นทางไหน พยายามตะโกน กู่เรียกพรรคพวก ก็ไม่มีใครได้ยิน จนท้อพอคำลงก็จะมัดแปลนอนกับต้นไม้ท่ามกลางอากาศที่หนาว จนกระทั่งอาหารและน้ำหมดลง คิดว่าตัวคงไม่รอดต้องตายกลางป่าแน่ๆ เพราะกลางคืนก็มีฝนตกทุกวัน ตนเองก็นอนบนแปลหนาวท่ามกลางสายฝน จนอ่อนแรง ระหว่างนั้น ก็ใช้โหวตไม้ไผ่เป่า หวังว่าพรานป่าที่รู้สัญญาณจะได้ยิน จนเช้านี้มีคนได้ยินตามเสียงมา ก็มาพบตนเองดังกล่าวระยะเวลา 8 วัน นับว่าหฤโหดรอดมาได้ก็บุญแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเรื่องการแก้บน ทางครอบครัวจะดำเนินการภายหลัง แต่วันนี้ให้ นายนิคมฯ อาบน้ำอาบท่า และพักผ่อนก่อน หากร่างกายอ่อนแอ จะได้พาไปหาหมอ เมื่อทุกอย่างดีขึ้นก็จะไปแก้บนหัวหมู ตามที่บนบานเจ้าป่าเจ้าเขาไว้ ส่วน นางต๋องฯ ผู้เป็นแม่ ที่เมื่อวานร้องไห้ ทั้งคืน มาวันนี้ได้รับข่าวดี ก็ยิ้มออก เพราะลูกชายปลอดภัยกลับบ้านมาแล้ว.
