วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 09.00 น. ณ ห้องนครา แกรนด์บอลรูม โรงแรมแพร่นครา ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ น.ส.นิติยา พงษ์พานิช รอง ผวจ.แพร่ ประธานในการเปิดประชุมปฐมนิเทศโครงการ (สัมมนา ครั้งที่ 1) โครงการจ้างวิศวกร ที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร บนทางหลวงหมายเลข 11 ช่วง บ.ป่าไผ่ – บ.แม่แขม โดยมี นายนายประสพชัย ปรางค์ทอง แขวงทางหลวงแพร่ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้ได้รับผลกระทบ ผู้นำชุมชน หน่วยงานราชการ และประชาชนเข้าร่วมการประชุมกว่า 100 คน และมีตัวแทนบริษัท ให้ข้อมูลการก่อสร้าง ประกอบด้วย ดร.ศิลปชัย ถิรวิทยาคม ผู้จัดการโครงการ ดร.กิตติพจน์ เพิ่มพูน ผู้เชียวชาญด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน 1 นางรังษิยา กมลพนัส ผู้ชำนาญการสิ่งแวดล้อม
นายประสพชัยฯ กล่าวรายงานว่า ในการประชุมปฐมนิเทศโครงการ (สัมมนา ครั้งที่ 1) โครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร บนทางหลวงหมายเลข 11 ช่วง บ.ป่าไผ่ – บ.แม่แขม ในวันนี้ ปัจจุบัน ทางหลวงหมายเลข 11 เป็นทางหลวงสายสำคัญ ในการเชื่อมโยงการเดินทางและการขนส่งสินค้า และมีแนวโน้มปริมาณจราจรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ศักยภาพของถนนเดิมไม่เพียงพอในการรองรับการเดินทางของผู้ใช้ทาง กรมทางหลวงจึงมีแผนที่จะขยายทางหลวงหมายเลข 11 ให้เป็น 4 ช่องจราจร ตลอดแนวเส้นทาง ทั้งนี้ เนื่องจากแนวเส้นทางโครงการตัดผ่านพื้นที่ ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บี และชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 2 จึงเข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ก่อนดำเนินการก่อสร้างโครงการตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกรมทางหลวงจึงได้ว่าจ้างบริษัท ซิตี้ แพลน โปรเฟสชันนอล จำกัด บริษัท เอเซีย แล็ป แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัท อินเทลแพลน จำกัด และบริษัท ไวเปอร์เทค จำกัด ให้ดำเนินการศึกษาโครงการดังกล่าวสำหรับการประชุมในวันนี้เป็นการประชุมปฐมนิเทศโครงการ (สัมมนา ครั้งที่ 1) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของโครงการ ความเป็นมา วัตถุประสงค์ของการศึกษา ขอบเขตการศึกษา การตรวจสอบข้อจำกัดและเงื่อนไขด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปพิจารณาประกอบการศึกษาให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ต่อไป
น.ส.นิติยาฯ กล่าวว่า ตามที่ กรมทางหลวงมีแผนสำรวจและออกแบบรายละเอียด เพื่อดำเนินการขยายถนนบริเวณพื้นที่โครงการจากขนาด 2 ช่องจราจร ให้เป็น 4 ช่องจราจร ต่อเนื่องกันตลอดแนวเส้นทาง ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาจราจร ลดอุบัติเหตุ เพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับจราจร เสริมสร้างศักยภาพโครงข่ายทางหลวงให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ในการศึกษาโครงการดังกล่าว จำเป็นต้องรับฟังความคิดเห็น จากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนองค์กร และประชาชนในพื้นที่โครงการ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการนำไปประกอบการศึกษาให้มี ความเหมาะสม กรมทางหลวงและบริษัทที่ปรึกษาจึงได้มีการจัดประชุมขึ้นในวันนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านจะใช้โอกาสนี้เป็นช่องทางในการให้ข้อเสนอแนะและแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ พร้อมทั้งขอความอนุเคราะห์ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของโครงการให้ผู้ที่สนใจ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อไป.
