เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 ม.ค.66 ที่สถาบันพัฒนาการป่าไม้ ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ นายธาตรี บุญมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์เตรียมการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดแพร่ ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยมี นายชิตชนก สุขมงคล ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 กล่าวต้อนรับและรายงาน และ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 นายสงครามขาวสะอาด ผู้อำนวยการสำนักจัดการป่าไม้ที่ 3 พอ. ธำรงศักดิ์ บุญทักษ์ รองผอ.รักษาความมั่นคงในจังหวัดแพร่ (กอรมน.) พันเอกธวัฒน์ อยู่กอง ผู้บังคับการทหารม้าที่ 12 กองพลทหารม้าที่ 1 นายปรีชา โตมี ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแพร่ นายสายัณห์ กวีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ นายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ นำ เจ้าหน้าและหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าร่วมโครงการ เพื่อเร่งรัดการประชาสัมพันธ์เชิงรุกรณรงค์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้ความรู้พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทางวิชาการที่ถูกต้อง ลดจุดความร้อน หรือ Hotspot ควบคุม ป้องกันการเกิดไฟป่าในพื้นที่ และลดมลพิษจากหมอกควันไฟป่า ทั้งนี้จังหวัดแพร่ได้กำหนดให้วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2566 เป็นช่วง “วิกฤติหมอกควัน” และกำหนดให้ทุกพื้นที่ทุกหมู่บ้านในท้องที่จังหวัดแพร่ เป็น “เขตควบคุมไฟป่าและการเผาในที่โล่ง”
กิจกรรมโครงการรณรงค์เตรียมการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ประกอบด้วย การรับมอบอุปกรณ์ดับไฟป่า คือเครื่องเป่าลม จำนวน 10 เครื่อง เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานดับไฟป่าให้มีประสิทธิภาพ จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ การมอบเสบียง อาหารแห้ง น้ำดื่ม ให้ตัวแทนหน่วยผู้ปฏิบัติงานควบคุมไฟป่า จำนวน 10 ชุด พร้อมมอบเงินสนับสนุน แก่เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และเครือข่ายราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า จำนวน 38 หมู่บ้าน หมู่บ้านละ 50,000 บาท และปล่อยขบวนรถ เพื่อเป็นการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ตระหนักถึงการเตรียมพร้อมในการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน และมีการจัดนิทรรศการ เพื่อให้ความรู้เรื่องไฟป่า แจกเอกสารสื่อประชาสัมพันธ์ไฟป่า
นายธาตรี บุญมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวว่า จังหวัดแพร่ในปีนี้ต้องลดการเกิดไฟไหม้ป่าลง เพื่อลดปริมาณฝุ่นและจุดความร้อน หากเกิดจุดความร้อนที่ไหน ชุดเคลื่อนที่เร็วต้องรีบเข้าพื้นที่เพื่อระงับเหตุ เมื่อระงับไม่ให้ขยายวงกว้างได้ก็จะสามารถควบคุมได้เร็ว หากพบหรือสืบทราบว่ามีการลักลอบเผาก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง
