
ลักลอบขนย้ายจากบ้านบ่อหอย จ.น่าน ข้ามอำเภอ มาจนมุมที่ บ้านดอนมูล อ.สูงเม่น ไล่ล่ารอบหมู่บ้าน คนขับรถไม้ยังขับเบียดรถ จยย.เจ้าหน้าที่ที่ติดตามไล่ล่าจนเสียหลักพุ่งชนกำแพง รั้วบ้านของชาวบ้านได้รับบาดเจ็บแขนหักด้วย



เมื่อเวลา 02.18 น. เช้าวันที่ 9 ธ.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจร้อย ตชด.323 กก.ตชด.32(พะเยา), เจ้าหน้าที่สำนักจักการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ อำนวยการโดย นายสงคราม ขาวสะอาด ส่วนป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า โดย นายชาตรี สัทธรรมนุวงค์,เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้แพร่ 1,เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 3 สาขาแพร่,เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดแพร่,เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.9 (ช่อแฮ),เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรสูงเม่น,ฝ่ายปกครองอำเภอสูงเม่น



ร่วมกันจับกุมตัว นายเสกสรรค์ รอบเมือง อายุ 45 ปี บ้านเลขที่155/1 ม.9 ต.ดอนมูล อ.สูงเม่น จ.แพร่ พร้อมของกลาง ประกอบด้วย รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 3212 อุตรดิตถ์ บรรทุกไม้ประดู่ 1 ท่อน/ป.1.28 ลบม. ไม้ชิงชันแปรรูป 2 ผ/ล.ป.0.64 ลบม.รวมเป็นค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 236,800 บาท โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณบ้านหลังหนึ่งตั้งอยู่ ม.9 ต.ดอนมูล อ.สูงเม่น จ.แพร่ จากนั้นนำตัว นายเสกสรรค์ฯ ไปตรวจปัสสาวะ พบมีผลเป็นบวก จึงนำส่ง พงส.สภ.สูงเม่น จ.แพร่



โดยการจับกุมดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งว่าจะมีขบวนการค้าไม้ประดู่ข้ามชาติ ทำการติดต่อซื้อไม้ประดู่จากกลุ่มผู้ทำไม้ประดู่พื้นที่บ้านบ่อหอย ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน โดยใช้รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว เป็นพาหนะในการขนย้ายไม้ เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังร่วมกันออกตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง และได้ตั้งจุดตรวจสกัดบริเวณสามแยกบ้านน้ำพุสูง-แม่แรม จนถึงเวลาประมาณ 01.30 น. พบรถต้องสงสัยขับขี่ผ่านมา มายังจุดที่คณะเจ้าหน้าที่ดักสกัดอยู่

เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวส่งสัญญาณไฟฉายให้รถคันดังกล่าวหยุดเพื่อทำการตรวจสอบ แต่คนขับรถคันดังกล่าวเห็นเป็นคณะเจ้าหน้าที่จึงได้เร่งเครื่องรถขับฝ่าการสกัดออกไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไล่ติดตามรถบรรทุกไม้คันดังกล่าวตั้งแต่ อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ซึ่งระหว่างทาง ยังมีรถ กระบะมาสด้าแคบ BT 50 สีน้ำเงิน ทะเบียน บก 2380 พิษณุโลก ขับขี่กีดกันไม้ให้รถของคณะเจ้าหน้าที่ติดตามรถไม้คันดังกล่าวไปได้ จนรถบรรทุกไม้เริ่มทิ้งห่างออกไป คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ตัดสินใจชนท้ายรถมาสด้าฯ จนเสียหลักยางหลังข้ายแตก รถมาสด้าฯ คันดังกล่าวจึงได้ยูเทิร์นรถกลับขับมุ่งหน้าหลบหนีไปทาง จ.น่าน



ส่วนการติดตามไล่ล่ารถขนไม้ ก็ติดตามไปอย่างต่อเนื่องจาก อ.ร้องกวาง มุ่งหน้าไป อ.สูงเม่น โดยระหว่างทาง พบว่าคนนั่งฝั่งข้ายข้างคนขับได้ยื่นตัวออกมานอกตัวรถนั่งบนประตูรถขว้างปาสิ่งของใส่รถคณะเจ้าหน้าที่ และพยามยามแกะผ้าใบที่ปิดท้ายรถเพื่อจะให้ผ้าใบดังกล่าวปสิวใส่รถคณะเจ้าหน้าที่ จนเช้าเขตพื้นที่ อ.สูงเม่น ถึงปากทางบ้านดอนมูล ม.4 ต.ดอนมูล อ.สูงเม่น จ.แพร่ รถบรรทุกไม้คันดังกล่าวได้ขับเลี้ยวเข้าไปยังบ้านดอนมูล คณะเจ้าหน้าที่จึงขับติดตามเข้าไปอย่างกระชั้นชิด ขับไส่วนเวียนอยู่ภายในหมู่บ้านดอนมูลหลายรอบ
ซึ่งระหว่างไล่ล่าติดตามจับกุมนั้น รถบรรทุกไม้คันดังกล่าวได้ขับเบียดรถ จยย.ของเจ้าหน้าที่ จนเสียหลักพุ่งชนกำแพงรั้วบ้านของชาวบ้าน ทำให้ นายหมู่ใหญ่ วันชัย คู้ลู้ สมาชิก อส.จ.แพร่ เป็นผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บ จนต้องเรียกรถพยาบาล รพ.สูงเม่น มารับตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บที่ รพ.สูงเม่น อาการล่าสุดพบว่า แขนซ้ายหัก ใบหน้ามีบาดแผลถลอก


ส่วนเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ได้ติดตาม รถคันดังกล่าวอย่างกระชั้นชิด จนรถเลี้ยวเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นซอยตัน มีชาย 2 คนได้เปิดประตูรถแล้วพยายามวิ่งหลบหนีเข้าไปภายในบ้านหลังดังกล่าว คณะเจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งติดตามไปประมาณ 10 เมตร จนสามารถจับกุม นายเสกสรรฯ คนขับรถคันดังกล่าวได้ ส่วนชายนั่งข้างคนขับได้หลบหนีไปได้ จึงควบคุมตัว นายเสกสรร มาสอบสวน และตรวจปัสสาวะก็พบมีผลเป็นบวก
จากนั้น ร.ต.ต.ภูดิส ต๊ะนิล รอง สว(ป)กก.ตชด.32 เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สูงเม่น พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายเสกสรรค์ฯ ว่า โดยกล่าวหาว่า กระทำผิด ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 48 มีไม้กระยาเลยหวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครอบปริมาตร เกิน 0.20 ลบ.ม.โดยไม่ได้รับอนุญาตมาตรา ,69 ฐาน “ร่วมกันมีไม้หวงห้ามนยังมิได้แปรรูป(ท่อน)ไว้ในครอบครอง โดยมีได้รับอนุญาต มาตรา 70 ฐาน “ผู้ใดร่วมกันรับไว้ด้วยประการใด ช่อนเร้น จำหน่ายหรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำผิด นั้น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 “ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” เป็นผู้ขับขี่ยานภาหนะเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมตแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้ โทษประเภท1 (เมตแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมายต่อไป.


