วันพุธที่ 12 มกราคม 2565 เวลา 07.00 น. นำโดยนายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลเมืองแพร่ หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาล ผู้อำนวยการกองการศึกษา พนักงานเทศบาล ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครูและนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดหัวข่วง โรงรับจำนำเทศบาลเมืองแพร่ นางพิมพ์กาญจน์ ชัยจิตร์สกุล ที่ปรึกษากระทรวงวัฒนธรรมและคณะ สิบเอกหญิงกรวรรณ สุมมาตย์ วัฒนธรรมจังหวัดแพร่ สโมสรไลออนส์แพร่ สโมสรโรตารี สโมสรโรตารีเวียงโกศัย สโมสรฟุตบอลแพร่ยูไนเต็ด ชมรมร้านอาหารแผงลอยและพี่น้องประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตรบนเมก ณ บริเวณประตูชัยกำเเพงเมืองแพร่ (เมก)
พร้อมทั้งรณรงค์การใช้ตระกร้าหรือถุงผ้าแทนถุงพลาสติกในการใส่ของทำบุญตักบาตร การแต่งกายด้วยผ้าพื้นเมือง รักษาอัตลักษณ์การแต่งกายของจังหวัดแพร่และขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป จากนั้นได้รับฟังธรรมเทศนาจากคณะพระสงฆ์วัดหัวข่วง ว่าด้วยเรื่องของ “การสร้างกรรมดีเป็นพรอันประเสริฐสูงสุด” ในประเทศจีนสมัยโบราณนั้น มีสองครอบครัวที่ยึดถือปฏิบัติตามธรรมเนียมของบรรพบุรุษ เวลาไปไหว้บรรพบุรุษ ที่ป้ายของบรรพบุรุษนอกจากจะมีชื่อแซ่แล้วก็จะมีคติพจน์ที่เอาไว้สอนลูกหลาน ครอบครัวแรกจะเขียนเอาไว้ว่า “จงขอพรเพื่อความดี” ส่วนครอบครัวที่สองเขียนว่า “จงสร้างแต่กรรมดีเป็นพร” ครอบครัวแรกลูกหลานไม่ค่อยสนใจเรียน ชอบทานอาหารตามใจปากไม่ชอบออกกำลังกาย อีกทั้งไม่ขยันทำมาหากินชอบเที่ยวเล่น แต่เวลาไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ก็จะขอพรว่าขอให้เรียนเก่งๆ ขอให้สุขภาพแข็งแรง ขอให้มีงานมีเงินมีโชคลาภเข้ามาแต่ก็ไม่เป็นไปตามที่ขอเลย สุขภาพก็ไม่ได้ดีขึ้น ผลการเรียนก็แย่ลง และต้องแบมือขอเงินพ่อแม่ตลอดเวลาไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ส่วนครอบครัวที่สองไม่ค่อยมีโอกาสไปสถานที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่เน้นลงมือปฏิบัติชีวิตของเขาด้วยความดี ขยันทำมาหากินมาโดยตลอด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ครอบครัวก็มีความสุข สองครอบครัวนี้โยมว่าครอบครัวไหนจะได้พรอันประเสริฐมากกว่ากัน…
ตอบครอบครัวที่สองเพราะเขาเน้นลงมือปฏิบัติสร้างแต่สิ่งที่คู่ควรกับผลที่จะได้รับนั่นเอง แต่อาตมาไม่ได้ปฏิเสธสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่เราเคารพนับถือที่เป็นที่พึ่งทางใจ แต่ปีใหม่นี้พรอันประเสริฐที่สุดก็คือ “จงสร้างกรรมดีเป็นพรอันประเสริฐให้กับชีวิต” ดังที่ท่านสมเด็จพระสังฆราชองค์ก่อนท่านได้พูดเอาไว้ว่า “คิดดี ทำดี เป็นศรีเป็นพรสูงสุด ยิ่งกว่าพรเทพพรมนุษย์ เปรียบประดุจความดีที่ทำเอง”