ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปัจจุบันที่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้รับผลกระทบ เนื่องจากปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำ ถูกกว่าราคามาม่า 1 ห่อ เหลือเพียงกิโลกรัมละ 5-6 บาท ทำให้เกษตรกรที่ลงทุนทำนา ต่างประสบภาวะขายข้าวได้ไม่คุ้มทุน เหนื่อยเปล่า เดือดร้อนไปทั่วประเทศนั้น
ล่าสุด เฟซบุ๊ก นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง ได้โพสข้อความสะท้อนถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ผ่านเฟซบุ๊กของตัวเองว่า “เปิบข้าวทุกคราวคำ จงสูจำเป็นอาจิณ เหงื่อกูที่สูกิน จึงก่อเกิดมาเป็นคน” บทกวี “เปิบข้าว” ของจิตร ภูมิศักดิ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 นับถึงปัจจุบันปี 2564 ก็กว่า 60 ปีมาแล้ว ยาวนาน หลายต่อหลายชั่วอายุคน เป็นบทกวีที่สอนให้คนไทยสำนึก และให้ตระหนักถึงบุญคุณของชาวนาทำให้เห็นว่าอาชีพชาวนานั้นเป็นอาชีพ ที่ยากลำบากยิ่ง กว่าจะได้ข้าวแต่ละเมล็ดมาให้เราทาน กี่ปีมาแล้วล่ะ ที่ชาวนาเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานหนัก แต่ก็ในชั่วชีวิตของพี่น้องชาวนาก็ยังคงมีแต่คำว่า หนี้สิน และหนี้สิน
น่าเสียดายที่เพียงวาทกรรม คำว่า “ขาดทุน” ที่ถูกนำมาใช้ ในโครงการปกติของรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ (ซึ่งอันที่จริงคำว่า “ขาดทุน” ไม่สามารถนำมาใช้กับโครงการช่วยเหลือเกษตรกรของภาครัฐได้) ซึ่งความจริง เป็นโครงการที่ก่อให้เกิดรายได้แก่ประชาชน เป็นการกระตุ้นให้เกิดการ จับจ่ายใช้สอยและหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ของการบริหารการเงินภาครัฐ เพื่อที่รัฐบาลจะได้มีโอกาสเก็บภาษีจากทุกรายจ่ายที่เกิดขึ้นในทุกขั้นตอนของการใช้จ่ายเงิน (ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการที่ไม่มีโครงการจำนำข้าวเหมือนในอดีต ก็จะเห็นได้ว่าระบบเศรษฐกิจ ในปัจจุบันซบเซา เงินหมุนเวียนในระบบหายไป และรัฐบาลก็จัดเก็บภาษีไม่ได้)
ทำให้ทุกวันนี้เกษตรกรชาวนาและประชาชนเริ่มคิดถึงโครงการจำนำข้าวมากขึ้นทุกวันเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการประกันรายได้ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นก็จะเห็นว่า เกษตรกรชาวนามีความนิยมชมชอบโครงการจำนำข้าวมากกว่า เพราะทำให้ ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น เพียงพอที่จะชำระหนี้สินที่มีมา ในอดีตและสามารถลืมตาอ้าปากได้ประชาชนก็มีเงินหมุนเวียนในระบบ ให้จับจ่ายใช้สอย ไม่ฝืดเคืองเหมือนปัจจุบัน
แต่ว่า ถึงแม้ในที่สุด ศาลจะตัดสินว่า โครงการรับจำนำข้าว ของนายกฯยิ่งลักษณ์นั้น สามารถกระทำได้ไม่ผิดกฎหมาย แต่โครงการรับจำนำข้าวก็ถูกทำลาย จนไม่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาได้ต่อไปอีกและโดยเฉพาะนายกฯ ยิ่งลักษณ์เองนั้น ก็ถูกกล่าวหาอ้างว่าปล่อยปละละเลย ไปโน่น
วันนี้ราคาข้าวของพี่น้องชาวนาตกต่ำ อย่างที่ไม่เคยเห็น ในลักษณะแบบนี้มาก่อน เกษตรกร ประสบปัญหาขาดทุน โดยที่รัฐบาลก็ยังไม่สามารถให้ความช่วยเหลืออะไรได้อ้างแต่ค่าเงินบาทแข็งเท่านั้น และถึงแม้ว่าจะเห็น ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย (ซึ่งปัจจุบันเป็นฝ่ายค้านไม่สามารถดำเนินการเองได้) ออกมาเรียกร้อง ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือชาวนา แต่ก็ยังไม่เห็นว่ารัฐบาลจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้
ก็ขอประกาศไว้ดังๆ ให้ คนในรัฐบาลปัจจุบันที่รังเกียจและไม่ชอบโครงการจำนำข้าวนั่น ได้ทราบว่า เมื่อวันที่พรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลได้นั้น ไม่เพียงแต่โครงการที่สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรแบบโครงการจำนำข้าวเท่านั้น แต่พรรคเพื่อไทยจะมีนโยบายที่ทำให้พี่น้องเกษตรกรไทย ทั้งชาวนา ชาวสวนยางพาราฯลฯมีรายได้ สามารถปลดหนี้ปลดสิน ไม่เหมือนที่ถูกกระทำ ถูกทอดทิ้งหรือ เอารัดเอาเปรียบแบบอยู่ในปัจจุบันนี้อย่างเด็ดขาด พรรคเพื่อไทยจะแสดงความหมายของคำว่า ”ประชาธิปไตยกินได้” ให้ได้เห็นอย่างแน่นอน นี่คือ คำมั่นสัญญา วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล พรรคเพื่อไทย หัวใจคือประชาชน
