ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ในวาระสาม ที่กำลังอภิปรายในสภาในวันนี้ วันที่ 18 สิงหาคม 2564 นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รองประธาน กมธ. พิจารณาร่างงบประมาณ 2565 จากพรรคเพื่อไทย ได้ทวงถามถึงงบประมาณเพื่อใช้สำหรับการทำดำเนินนโยบายที่พรรคร่วมรัฐบาลต่างๆ ได้หาเสียงเอาไว้กับประชาชน
เพราะขณะนี้หลายนโยบายที่หาเสียงเอาไว้ ยังไม่ได้มีการดำเนินการ โดยเฉพาะนโยบายหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่พบว่าได้มีรายละเอียดอยู่ส่วนไหนใน งบประมาณ 65
ไม่ว่าจะเป็น
– การประกันราคาข้าวหอม ต้องได้ 18,000 บาท ราคาข้าวขาวต้องไม่ต่ำกว่า 12,000
– ค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บาท
– เงินเดือนสำหรับเด็กจบใหม่ ปริญญาตรี 20,000 บาท สำหรับอาชีวะ 18,000 บาท
– เพิ่มเงินเดือนอาสาสมัคร 2,500 – 10,000 บาท
– โครงการพักหนี้เกษตรกร
– เงินช่วยเหลือเด็กแรกเกิด 5,000 ต่อด้วยเดือน และจะได้ 1,000 บาท/เดือน จนกว่าเด็กจะอายุครบ 8 ปี
ซึ่งในงบประมาณ 2565 นี้ไม่มีการตั้งงบประมาณเหล่านี้ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ในฐานะรองประธาน กมธ.งบประมาณ 2565 จึงเห็นควรให้กลับไปพิจารณางบประมาณใหม่ และตัดงบเพิ่มอีก 4% หรือ จำนวน 120,000 ล้านบาท เพื่อจัดสรรสำหรับการดำเนินนโยบายที่ได้พรรคร่วมรัฐบาลได้ทำสัญญาประชาคมกับประชาชนไว้
“การลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ในวันนี้จะเป็นสิ่งที่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลอึดอัดใจมาก เพราะหากลงมติรับงบประมาณฉบับนี้ แปลว่าพรรคการเมืองโดยเฉพาะซีกรัฐบาล จะไม่มีงบประมาณสำหรับดำเนินการตามนโยบายที่ได้หาเสียงเอาไว้เลย และจะเท่ากับการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ไม่แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน ตบเท้าก้าวเข้าสู่ศาลฎีกา จึงขอปรับลดเพิ่มเติมปี 4% หรือ 120,000 ล้านบาท เพื่อเอามาจัดสรรช่วยเหลือประชาชนที่กำลังยากลำบากกันอยู่ในขณะนี้” นายวรวัจน์ กล่าว