ผู้สูงอายุยิ้มแก้มแตกแห่ถอน เงินดิจิทัล เฟส 2 หลังรัฐบาลโอนเข้าบัญชีเมื่อคืน ส่วนใหญ่จะนำเงินไปใช้ในชีวิตประจำวัน บางคนนำไปเป็นรักษาพยาบาล บางคนเป็นทุนในการค้าขาย
เช้าวันที่ 27 ม.ค.68 ตั้งแต่เวลา 06.00 น.ที่ตู้เอทีเอ็มหน้าธ.ก.ส.สาขาแพร่คลาคล่ำไปด้วยผู้สูงอายุและลูกหลานที่ต่างนำสมุดธนาคารเข้ามาเช็คยอดเงินที่วันนี้เป็นวันแรกที่รัฐบาลโอนเงินสด10,000 บาท เฟส 2 โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยรัฐบาลโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ผูกเลขบัตรประจำตัวประชาชน ทำให้คึกคักกันตั้งแต่เช้า นอกจากนั้น ที่หน้าธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสินสาขาต่างๆในจังหวัดแพร่ ก็คึกคักเป็นพิเศษส่วนใหญ่ที่เข้ามาปรับสมุดพบว่า เงินโอนเข้าบัญชีตั้งแต่เวลาตี 2 บางคนก็กดเป็นเงินสดออกมาใช้เลย บางคน ถอนมา 5 พันบาท เก็บไว้ในบัญชี 5 พันบาท ตู้ ATM บางตู้สมุดธนาคารไม่รองรับ ไม่สามารถรันบัญชีได้ ทำเอาผู้สูงอายุบางคน ร้อนใจ กลัวว่าจะไม่ได้เงิน 1 หมื่นบาท เหมือนคนอื่นๆบางส่วนก็ให้ลูกหลานที่ไว้ใจได้ มาเช็คและมากดเงินให้
ส่วนที่ อ.ร้องกวาง หน้า ธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาร้องเข็ม อ.ร้องกวาง ไม่คึกคักเท่าที่ควร สาเหตุเพราะเป็นผู้สูงอายุไม่สะดวกที่จะมาธนาคารเอ็งได้บางคนต้องรอลูกหลานพามาส่งบางคนแค่เอาสมุดมาปรับ ถ้าเป็นสมุดสีเขียว สามารถปรับหน้าตู้ ATM ได้เลยแต่ถ้าเป็นสีแดง ต้อง ให้เจ้าหน้าที่ของธนาคาร ปรับให้ สำหรับบางคนที่มีบัตร ATM ก็กดเงิน ไปใช้เลย และบางส่วนมีแอฟธนาคารอยู่ จึงไม่ต้องออกมาที่หน้าตู้ ทำให้ค่อนข้างเงียบเหงา
นายติ่งต้อย วงษ์เวช อายุ 68 ปี บ้านเลขที่ 115 ม.2 ต.แม่หล่าย อ.เมือง ซึ่งมีภรรยาและอาศัยอยู่ที่ ต.ร้องเข็ม อ.ร้องกวาง จ.แพร่ เผยว่าเมื่อคืนลุ้นสุดๆว่าเงินหมื่นจากรัฐบาลโดยแกนนำพรรคเพื่อไทยจะโอนเข้าบัญชีมั้ยแต่พอเวลาประมาณตี 2 กว่าๆโทรศัพท์ก็มีข้อความเข้าว่าเงิน10,000 เข้าแล้ว เช้ามานี่ตนจึงเดินทางมากดเงินสด 1 หมื่นบาท กลับบ้าน พร้อมทั้งฝากขอขอบคุณรัฐบาลที่โอนจ่ายเงิน ดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งเป็นโครงการดีๆ ที่ช่วยเหลือผู้สูงอายุยากจนมีรายได้น้อย ซึ่งเป็นเงินที่จำเป็นมากสำหรับคนจน ตนเองจะนำเงินใช้จ่ายในครอบครัวและตั้งใจเก็บไว้ลงทุนต่อยอดสร้างรายได้ต่อไป
