อดีตแม่ชี เจ้าของที่เผย สมัยก่อนมีคนนำงูเห่าที่เจอในสวนนี้มากิน ตายแล้ว ถึง 2 ครั้ง ตอนเข้ามาอยู่ เคยบอกแล้วว่า เจองูเห่า อย่าฆ่าแต่ก็ไม่เชื่อฆ่าตายถึง 2 ตัวจนมาวันนี้ ตายปริศนา
เหตุสาวประเภทสองตายปริศนาในสวนธรรมครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา14.30 น.วันที่ 4 ก.พ.67 รถกู้ชีพ-กู้ภัยผาตู้ ของ อบต.วังธง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุนเรนทร อบจ.แพร่ (สายด่วน 1669) ว่า ให้ไปรับคนป่วยหมดสติที่ สวนธรรมอดีตแม่ชี กลมพรรณ สารจินดาพงษ์ เลขที่ 130 ม.3 บ้านปากห้วย ต.วังธง อ.เมืองแพร่ ใกล้ป่าช้าปากห้วย
เมื่อไปถึงพบผู้ป่วย เป็นสาวประเภทสอง ทราบชื่อภายหลังคือ นายหนึ่ง หรือ ปิยณัฐ สายทอง อายุ 42 ปี ราษฎรบ้านทุ่งคั๊วะ ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง จ.แพร่ สภาพหมดสติอยู่หน้าบ้าน บริเวณที่ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า สภาพนอนคว่ำหน้าศีรษะซุกโครงจอทีวีเก่า ไม่รู้สึกตัว จากนั้นหน่วยกู้ชีพ รพ.แพร่ ได้ช่วยชีวิตโดยการทำ CPR ก่อนนำส่ง รพ.แพร่ ต่อมาได้รับแจ้งว่าเสียชีวิตแล้ว
จากการสอบถาม อดีตแม่ชี กลมพรรณ สารจินดาพงษ์ อายุ 53 ปี เจ้าของสวนธรรมแห่งนี้ ให้การว่า นายหนึ่ง เป็นสาวประเภทสอง มีอาชีพช่างไฟฟ้า ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เมื่อปลายปีได้มาขออาศัยที่สวน มาขออยู่ช่วยจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ช่วยพัฒนาที่สวนเพื่อปลูกผักและรับจ้างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าไปด้วย
สาเหตุที่ นายหนึ่งขอมาอยู่ด้วยเพราะเคยเป็นลูกศิษย์ตนเอง ประกอบกับแฟนนายหนึ่งที่เป็นผู้ชาย เพิ่งเสียชีวิตเลยออกจากบ้านแฟนมา ตอนมาอยู่ก็เอารูปแฟนพร้อมหอบเอาเถ้ากระดูกแฟนมาด้วย ซึ่งตนเองก็บอกให้เอาไปฝังป่าช้า หรือเอาไปลอยน้ำแบบลอยอังคารเถ้ากระดูก ก็ไม่ยอมทำ
จนเมื่อสองสัปดาห์ก่อน นายหนึ่ง ได้ถางหญ้าที่ขึ้นรก ตนเองบอกกำชับนายหนึ่ง ว่าเจองูเห่าก็ปล่อยเขาไปอย่าทำอะไร แต่นายหนึ่งกลับบอกว่า มันมีพิษปล่อยไว้ทำไม จนเมื่อไม่นานได้ฆ่างูเห่าที่เจอขณะถางหญ้าไปถึง 2 ตัว โดยการตัดหัวแล้วมัดห้อยไว้ จะเอาไปให้ชาวบ้านกิน แต่ชาวบ้านก็ไม่เอา จึงเอาไปฝัง ทั้งที่ตนเองห้ามแล้ว ตนเองจึงบอกว่า “มึงไม่กลัวตายหรือ?”
จนมาวันนี้ ตนเองทำกับข้าวจะกินตอนกลางวัน จึงได้ออกมาตะโกนบอกให้มากินข้าว ก็พบนายหนึ่งที่เห็นนั่งซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าบนโต๊ะ ตอนนี้กลายเป็นนอนคว่ำหน้าควบโครงจอทีวีเก่าและไม่ได้สติ จึงไปบอกให้คนมาช่วย เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็ไม่มีชีพจนแล้ว แต่ก็ได้ช่วยเหลืออย่างเต็มและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตนเองก็ไม่ทราบว่าเสียชีวิตจากสาเหตุใด
ตนเองเคยบวชชีและอยู่ในที่ดินแห่งนี้มากว่ายี่สิบปี แล้วรู้ว่าในอดีต เคยมีชาวบ้านเคยเจองูเห่า บนที่ดินแห่งนี้ แต่ได้ทุบตีเอาไปทำกับแกล้มยำงูเห่า และต่อมาก็ตายแบบไม่ทราบสาเหตุ ตนเองเป็นแม่ชีปฏิบัติธรรมจึงได้ให้ช่างปั้นรูปจำลองพญานาคราช และรูปพญางู ต่อมาก็มีลุงอีกคนที่รู้จักกันดี เจองูเห่า ก็ไล่ตีเอาไปกิน ก็เสียชีวิตเช่นกัน รวมเป็น 2 ครั้ง จนกระทั่งมาถึง นายหนึ่ง ในวันนี้ทั้งๆที่บอกแล้วว่า อย่าตีงูเห่า ก็ไม่เชื่อ จึงเกิดเหตุเสียชีวิต ปริศนาดังกล่าว
เบื้องต้น ตนเองไม่รู้จักญาติของนายหนึ่งเลย จึงอยากให้ประสานตามญาติ เพื่อไปพิสูจน์สาเหตุการตายที่แท้จริงจากโรงพยาบาล และจะได้ช่วยกันนำศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.