วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน 2566 เวลา 07.00 น. นายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลเมืองแพร่ ผู้อำนวยการกองการศึกษา เจ้าหน้าที่สำนักปลัดเทศบาลและกองการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครูและนักเรียนโรงเรียนสาธิตเทศบาลบ้านเชตวัน ชุมชนหัวข่วง ชุมชนศรีชุม ชุมชนพงษ์สุนันท์ สโมสรไลออนส์แพร่ สโมสรโรตารี สโมสรโรตารีเวียงโกศัย สโมสรฟุตบอลแพร่ยูไนเต็ด ชมรมร้านอาหารแผงลอย ชมรมช่างเสริมสวยจังหวัดแพร่ ชมรมช่างเสริมสวยเทศบาลเมืองแพร่ และคณะศรัทธาสาธุชน ร่วมทำบุญตักบาตร ณ บริเวณประตูชัยกำเเพงเมืองแพร่ (เมก)
จากนั้นรับฟังคติธรรมจากคณะพระสงฆ์วัดศรีบุญเรือง ความว่า เมื่อวานก่อนอาตมาได้รับโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประมาณว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้า มาเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าของวัด แต่ขอให้กดรับข้อมูลด้วย จะเห็นว่าเค้าเล่นกับความโลภของมนุษย์ เล่นกับความกลัว บางคนบอกเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ทีนี้ภูมิคุ้มกันก็คือ “สติ” อาตมาก็ถามตรงๆ ว่าโยมใช่แก๊งคอลเซ็นเตอร์มั้ย โยมไม่กลัวบาปบุญคุณโทษบ้างเลยรึ มาหลอกพระหลอกเจ้า พอพูดจบทางนั้นก็บอกว่าเมื่อรู้แล้วทำไมยังเสียเวลามาคุยทำไม แล้วก็วางหูใส่อาตมาเลย จิตใจคนเรามีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง
อาตมามองว่าเค้าเป็นภัยภายนอก หรือภัยในชีวิตอีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นภัยจากเศรษฐกิจ ภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ ภัยจากดินฟ้าอากาศ มองดูแล้วภัยภายนอกว่าร้ายกาจแล้ว แต่ภายใจจิตใจของเรามันป้องกันได้ ไม่ตกเป็นเหยื่อของความโลภในจิตใจ แต่ภัยจากภายในของตัวเราเอง เช่น โกรธง่าย เห็นแก่ตัว อยู่ร้อนนอนทุกข์ หรือที่เรียกว่า “กิเลส” ความโลภ ความโกรธ ความหลงนี่แหล่ะ ถ้าเรารู้จักตัวเองดีพอ มีสติยั้งคิด สร้างบุญกุศล ผ่านศีลภาวนา ก็จะช่วยป้องกันจิตใจของเรา ป้องกันภัยจากตัวเราเอง เพราะฉะนั้นก็ขอให้ธรรมะเป็น “ธรรมาวุธ” ช่วยป้องกันคุ้มครองให้มีชีวิตที่สงบร่มเย็น รู้รอดปลอยภัยจากอันตรายทั้งปวง
