






วันพุธที่ 7 มิถุนายน 2566 เวลา 07.00 น. นายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลเมืองแพร่ ผู้อำนวยการกองการศึกษา เจ้าหน้าที่กองการศึกษา คณะผู้บริหารสถานศึกษา คณะครูและนักเรียนโรงเรียนสาธิตเทศบาลบ้านเชตวัน ชุมชนเชตวัน ชุมชนพระนอน ชุมชนวัดหลวง สโมสรไลออนส์แพร่ สโมสรโรตารี สโมสรโรตารีเวียงโกศัย สโมสรฟุตบอลแพร่ยูไนเต็ด ชมรมร้านอาหารแผงลอย ชมรมช่างเสริมสวยจังหวัดแพร่ ชมรมช่างเสริมสวยเทศบาลเมืองแพร่ และคณะศรัทธาสาธุชนร่วมทำบุญตักบาตร ณ บริเวณประตูชัยกำเเพงเมืองแพร่ (เมก)





จากนั้นได้รับฟังคติธรรมจากคณะพระสงฆ์วัดหัวข่วง ความว่า ในระหว่างที่อาตมาเดินมาเห็นกิ่งไม้ท่อนนึงก็เลยเก็บมา อาตมาอยากถามโยมทั้งหลายว่าไม้ท่อนนี้มันยาวหรือมันสั้น บางท่านก็บอกว่าสั้น บางท่านก็บอกว่ายาว ธรรมชาติของไม้มันไม่มีสั้นไม่มียาว ที่มันจะยาวหรือจะสั้นมันอยู่ที่ความต้องการของพวกเรานี่แหล่ะ สมมุติว่าเราอยากจะให้ไม้มันยาว ไม้ที่อาตมาถืออยู่นี้ก็จะสั้น แต่ถ้าอยากให้ไม้มันสั้นไม้นี้ก็จะยาวไป แต่ธรรมชาติของไม้มันไม่รู้เรื่อง มันก็เปรียบเสมือนกับทุกข์ของเรานี่แหล่ะ ความทุกข์ของเราก็คือความอยาก ความอยากที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตของเราแต่ละวัน ถามจริงๆ ไม้มันทุกข์หรือว่าเราทุกข์ เรานี่แหล่ะทุกข์ ไม้ไม่รู้เรื่องหรอก เรื่องนี้ก็เปรียบกับชีวิตที่บางอย่างมันไม่ได้อย่างที่เราต้องการ เพราะทุกวันนี้ความอยากของพวกเราในชีวิตมันเยอะแยะมากมาย ผิดหวังบ้าง สมหวังบ้าง เดี๋ยวก็ทุกข์ เดี๋ยวก็สุขบ้าง ถ้าวันนั้นผิดหวังทั้งวันก็กลายเป็นทุกข์ทั้งวันไป ถ้าหากว่าเรารู้จักปล่อยวางบ้างความทุกข์มันก็จะลดลง การทำบุญก็เช่นเดียวกัน ถ้าหากเรายังไม่ละบาป ไม่ละชั่ว บุญที่เราทำ ทำ ทำ ทำ มานั้นมันก็ไม่สามารถที่จะเติมเต็มได้ คนเราทำบุญแต่ไม่ละบาปก็เปรียบเสมือนเอากะละมังไปวางอยู่กลางแจ้ง เวลามีฝนตกลงมาน้ำก็อยู่แต่ข้างนอก ไม่สามารถที่จะเติมเต็มในกะละมังนั้นได้เลย เพราะฉะนั้นการทำบุญที่ดีที่สุดก็คือ “การละชั่วกลัวบาป” ถ้าเรามีศีล 5 เราก็จะทำบุญได้โดยสมบูรณ์ คิดดี ทำดี ทำสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม บุญมันถึงจะเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น

