เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 ก.ย.65 ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลแม่หล่าย อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ นพ.นิยม วิวรรธนดิษฐกุล ส.ส.แพร่ แบบบัญชีรายชื่อ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา โครงการ “กัญชง – กัญชา และกระท่อม ใช้อย่างไรถึงปลอดภัยและได้ประโยชน์” โดยมี นายชยุตม์ ศุภสินธุ์ นิติกรชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวรายงานวัตถุงประสงค์การจัดงาน โดยมี นายบรรจง ยัพวัฒนา นายกเทศมนตรีตำบลแม่หล่าย กล่าวต่อนรับคณะวิทยากรและผู้เข้าร่วมการสัมมนา โดยมี ดร. เภสัชกร ณัฐพศุตม์ ภัทธิราสินสิริ เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย วิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้ร่วมสัมมนากว่า 250 คน
นายชยุตม์ฯ กล่าวรายงานว่า การสัมมนา โครงการ “กัญชง – กัญชา และกระท่อม ใช้อย่างไรถึงปลอดภัย ในวันนี้ มีกลุ่มเป้าหมาย คือ ประชาชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนผู้ที่สนใจในจังหวัดแพร่ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้ จำนวน 250 คน การสัมมนาครั้งนี้มีความประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง ในการบริโภค ตลอดจนเร่งรณรงค์ให้ประชาชนเกิดความตระหนักถึงประโยชน์ และโทษของกัญชง กัญชา และกระท่อม รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมของพืชดังกล่าว โดยในการสัมมนานี้คณะผู้จัดสัมมนาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้เข้าร่วมสัมมนา จะสามารถได้รับความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการบริโภค ตลอดจนสามารถอธิบาย หรือให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์และโทษของกัญชง กัญชา และกระท่อม แก่เพื่อน ครอบครัว และชุมชนได้ รวมทั้งสามารถเลือกซื้อ เลือกบริโภค รวมถึงใช้สินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมของพืชดังกล่าว ได้อย่างเหมาะสม ถูกต้อง และปลอดภัยต่อไป
นพ.นิยม วิวรรธนดิฐกุล กล่าวว่า กระผมในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในการเปิดสัมมนา โครงการ “กัญชง – กัญชา และกระท่อม ใช้อย่างไรถึงปลอดภัยและได้ประโยชน์” ซึ่งจัดโดยคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ในวันนี้ ก่อนอื่นผม ขอขอบคุณคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ที่ให้ความสำคัญและให้เกียรติกับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดแพร่ เนื่องจากหัวข้อ การสัมมนาในครั้งนี้ นับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อพี่น้องทุกคน ภายหลังจากกระทรวงสาธารณสุขได้มีประกาศ เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 พ.ศ. 2565 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565
โดยไม่มีการกำหนดให้พืชกัญชง กัญชา และส่วนต่าง ๆ ของพืช เช่น ใบ และช่อดอกเป็นยาเสพติดให้โทษ ประกอบกับภายหลังการมีผลบังคับใช้ของยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2564 ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกัญชง กัญชา และกระท่อมในลักษณะเสรี และอาจมีการปลูกและใช้พืชดังกล่าวเป็นการทั่วไป ดังนั้น
การสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และให้คำแนะนำแก่ประชาชน จึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากกัญชง กัญชา และกระท่อม ถึงแม้จะถือว่าเป็นพืชสมุนไพรที่มีความสำคัญต่อการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในทางการแพทย์และอุตสาหกรรมทางการแพทย์ การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ รวมถึงการสร้างรายได้ของประชาชน แต่ยังคงมีข้อกังวลหรือความตระหนักถึงผลร้ายเกี่ยวกับการปลูกและการนำพืชกัญชง กัญชา และกระท่อม ไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมจนอาจส่งผลกระทบทางสังคมโดยรวมได้
การใช้ประโยชน์ของพืชทั้ง 3 ชนิดนี้ สามารถนำมาใช้ได้ในทุก ๆ ส่วน โดยในภาคอุตสาหกรรมนิยมนำกัญชามาใช้เพื่อการรักษาทางการแพทย์ ซึ่งมีรายงาน ทางการแพทย์ว่ากัญชาสามารถช่วยบรรเทาอาการป่วยได้ อาทิ อาการปวด อาการเบื่ออาหาร สามารถทำให้ลดความกังวล ผ่อนคลาย และนอนหลับ เป็นต้น สำหรับกัญชงนั้น สามารถนำไปใช้ในเชิงอุตสาหกรรมได้ทั้งต้น โดยเส้นใยกัญชง เป็นส่วนสำคัญที่สุด ใช้ในการผลิตกระดาษและเยื่อกระดาษ ลำต้นใช้เป็นวัสดุก่อสร้าง เมล็ดใช้สกัดเป็นน้ำมันกัญชงและใช้เป็นอาหาร นอกจากนี้ มักนิยมใช้ในกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม ตลอดจนอุตสาหกรรมสิ่งทอที่สามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าจนสามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้ ส่วนกระท่อมช่วยบรรเทาอาการเจ็ดปวดในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ลดอาการไอ แก้ท้องเสีย แก้ปวดฟัน ทำให้นอนหลับและระงับประสาท เป็นต้น
แม้ว่ากัญชง กัญชา และกระท่อม จะมีความสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรม และทางการแพทย์มากเพียงใด แต่การอนุญาตให้ประชาชนปลูกและนำมาใช้ได้โดยเสรีนั้น ย่อมมีข้อกังวลในผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนและความปลอดภัยของสังคมโดยรวม หากไม่มีการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และคำแนะนำในการบริโภคที่เหมาะสมแก่ประชาชน เนื่องจากกัญชง กัญชา และกระท่อมอาจก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรงต่อประชาชนหลายกลุ่ม โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่น สตรีตั้งครรภ์และให้นมบุตร รวมถึงการใช้ปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะ กัญชาเป็นพิษและทำให้เกิดการเสพติดได้ เป็นต้น
จากการรับฟังคำกล่าวรายงาน นับว่าเป็นสิ่งที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง สำหรับ ทุกคนที่มีโอกาสได้เข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดีของคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ในการให้ความรู้แก่ประชาชน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ที่ถูกต้องในการบริโภค ตลอดจนสามารถอธิบายหรือให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์และโทษของกัญชง กัญชา และกระท่อม แก่เพื่อน ครอบครัว และชุมชนได้ รวมทั้งสามารถเลือกซื้อ เลือกบริโภค รวมถึงใช้สินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมของกัญชง กัญชา และกระท่อม ได้อย่างเหมาะสม ถูกต้อง และปลอดภัยต่อไป
ผมต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวจังหวัดแพร่ทุกท่าน ที่ได้ให้ความสนใจและเสียสละเวลาในการเข้าร่วมการสัมมนาครั้งนี้ ในขณะเดียวกันขอขอบคุณคณะกรรมาธิการ การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร อีกครั้ง ที่ได้จัดโครงการสัมมนาดี ๆ ให้กับพี่น้องชาวจังหวัดแพร่ รวมทั้งขอขอบคุณวิทยากรที่ได้มาถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคในครั้งนี้ด้วย สุดท้ายนี้ ผมขอกราบอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านเคารพนับถือ อำนวยพรให้ทุกท่านจงประสบแต่ความสุขความเจริญ แคล้วคลาดปลอดภัย จากโรคโควิด 19 และภัยอันตรายทั้งปวง ตลอดจนสัมฤทธิ์ผลในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ
บัดนี้ ได้เวลาอันสมควรแล้ว ผมขอเปิดการสัมมนา โครงการ “กัญชง – กัญชา และกระท่อม ใช้อย่างไรถึงปลอดภัยและได้ประโยชน์” ณ บัดนี้
หลังพิธีเปิด ดร. เภสัชกร ณัฐพศุตม์ ภัทธิราสินสิริ เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้บรรยายให้กับผู้เข้าร่วมการสัมมนาทุกคน
