เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 18 เม.ย.68 ร.ต.อ.จงเย็น โปธาตุ รอง สว.สอบสวน ทำหน้าที่พนักงานสอบสวนเวร สภ.สูงเม่น จ.แพร่ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุมีเหตุทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดพร้าที่บ้าน ม.6 ต.เวียงทอง อ.สูงเม่น จ.แพร่ มีผู้บาดเจ็บ หลังรับแจ้งจึงประสานรถกู้ชีพกู้ภัย อบต.เวียงทอง และ รถกู้ชีพ รพ.แพร่ ออกรับผู้บาดเจ็บ ก่อนจะรุดไปตรวจสอบเหตุ
พบว่าที่เกิดเหตุเป็นบ้านของ น.ส.ดามัย ปิ่นมณี อายุ 57 ปีเลขที่ 92/3 ม. 6 ต.เวียงทอง อ.สูงเม่น จ.แพร่ ซึ่งทำเป็นโรงงานทำน้ำพริกลาบ พบร่าง น.ส.ฐิตาพร จินดาคำ อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 85/3 ม.6 ต.เวียงทอง อ.สูงเม่น ซึ่งเป็นลูกจ้างทำงานบรรจุถุงน้ำพริกลาบถูกพร้าฟันที่ศีรษะและแขนหลายแผล บาดเจ็บสาหัส

ใกล้กันข้างรถกระบะ โตโยต้า ทะเบียน นข 1756 น่าน พบร่าง นายสิทธิชัย วงศา อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 54 ต.เนินพระ อ.เชียงกลาง จ.น่าน นอนคว่ำหน้าน้ำลายฟูมปาก สภาพศีรษะเต็มไปด้วยบาดแผลจากการฟัน ข้างกายมีพร้ายาวประมาณ 60 ซม.ตกอยู่ พร้อมรองเท้าอีก 1 คู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงทำการปฐมพยาบาลทั้ง 2 ราย ก่อนนำส่งรักษาตัวที่ รพ.แพร่ อย่างเร่งด่วน
จากการสอบถาม น.ส.ดามัยฯ เจ้าของบ้านทราบว่า ทั้ง 2 คนเป็นสามีภรรยากัน มีลูกอายุ ขวบกว่าๆ โดยก่อนเกิดเหตุ นายสิทธิชัยฯ ได้ขับรถมาจอดที่บ้าน เพื่อมาตาม น.ส.ฐิตาพรฯ ให้กลับไป จ.น่าน แต่ระหว่างนั้น น.ส.ฐิตาพรฯ ยังใส่น้ำพริกลาบไม่เสร็จ จึงมีปากเสียงกัน ก่อนที่ นายสิทธิชัยฯ จะเดินไปเอาพร้ามาฟัน น.ส.ฐิตาพรฯ จนบาดเจ็บล้มลง

จากนั้น นายสิทธิชัยฯได้เดินไปที่รถและดื่มน้ำอะไรสักอย่าง ก่อนจะเดินมาเอามีดพร้ามาฟันตัวเอง จนล้มลงบาดเจ็บดังกล่าว ระหว่างนั้นตนเองตกใจมาก ไม่กล้าเข้าไปห้าม แต่ได้รีบเอาลูกชายวัยขวบกว่าๆ ของทั้ง 2 คน วิ่งหนีออกไปจากที่เกิดเหตุเพราะเกรงว่าลูกชายของทั้ง 2 คน จะถูกทำร้าย ก่อนจะมีเพื่อนบ้านมาช่วยแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

สำหรับทั้ง 2 คน เป็นสามีภรรยากัน แต่มีเรื่องระหองระแหงกันเป็นประจำ ล่าสุด น.ส.ฐิตาพรฯ ได้เดินทางมาจากน่าน เพื่อกลับมาบ้าน มาหาแม่ แต่ไม่มีงานทำ ตนเองจึงให้มาทำงานบรรจุน้ำพริกลาบเพื่อจะได้มีรายได้ จนกระทั่งเมื่อวาน นายสิทธิชัย สามี ได้พาลูกมาจาก จ.น่าน มาง้อ น.ส.ฐิตาพรฯ แล้วก็หายกันไปทั้งคืน

จนวันนี้ น.ส.ฐิตาพรฯ มาทำงานตามปกติ ต่อมา นายสิทธิชัย ได้ขับรถมาจอดรอประมาณ 2 ชั่วโมงแต่ก็ไม่มีการทะเลาะกัน จนกระทั่งลงมาถามให้ภรรยากลับบ้านครั้งสุดท้ายแต่ น.ส.ฐิตาพรฯ ยังไม่เสร็จงาน จู่ๆ นายสิทธิชัยฯ ก็ไปคว้าพร้ามาฟัน ต่อหน้าต่อตาลูกชายของทั้ง 2 คน ดังกล่าว
ทางด้าน นางสิราวัลย์ จำเริญ อายุ 52 ปี พี่สาว น.ส.ฐิตาพรฯ เผยว่า น้องสาวหนีจากน่านมาแพร่ เพราะว่า มีปัญหาทะเลาะกันบ่อย ถูกทำร้ายก็บ่อยครั้ง และนายสิทธิชัยฯ ก็มีความเกี่ยวข้องกับการเสพยาบ้าด้วยจึงมักจะทำร้าย น.ส.ฐิตาพรฯ เป็นประจำ ไม่ทราบว่า มันจะมาแพร่ทำไม ในเมื่อน้องสาวเธอ หนีกลับมาบ้านแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุญาติผู้บาดเจ็บได้นำเอานม ที่อยู่ในรถ มาเททิ้ง เนื่องจากเกรงว่า นายสิทธิชัย จะวางแผนฆ่าทั้งครอบครัว โดยการใส่ยาในนมลูกให้ลูกดูดตายไปด้วย ทางญาติ จึงได้นำนมและของใช้ต่างๆ ทิ้ง ไม่เอาไปให้หลาน และจะได้ประสาน ญาติของ นายสิทธิชัยฯ ให้ทราบว่า ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นต่อไป
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน ได้บันทึกที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน และสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ เก็บของกลางที่เกิดเหตุ และมีแก้วต้องสงสัย ที่ นายสิทธิชัยฯ ผู้ก่อเหตุ แวะมาดื่ม ก่อนจะทำร้ายตัวเองไปตรวจสอบ ก่อนจะไปทำการสอบสวนผู้บาดเจ็บที่ รพ.แพร่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่านส.ฐิติพรได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
